ค้นหาบทความ

วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2556

หยั่งรากให้ลึก


สมัยราชวงศ์ซ่งมีไจ่เซี่ยงคนหนึ่งชื่อตู้เหย่น เขาเคยพูดกับศิษย์ของเขาดังนี้
หากท่านปรารถนาจะทำงานในราชสำนัก สิ่งแรกคือท่านต้องเป็นคนใจซื่อมือสะอาด แต่สิ่งที่ท่านต้องสนใจยิ่งกว่าคือความระมัดระวังรอบคอบ หากละเลยความรอบคอบระมัดระวัง จะทำให้ประสบกับอุปสรรคนานาประการ
หากท่านคิดมุ่งทำเพื่อความก้าวหน้าของตนแต่ฝ่ายเดียว เพื่อให้ตนอยู่สูงกว่าผู้อื่น โดยไม่สนใจในสิ่งอื่นใด จะทำให้ผู้คนรอบข้างบังเกิดความอิจฉาริษยาในตัวท่าน ทำให้เกิดความคิดต่อต้านในใจพวกเขาได้ ท่านจะต้องสามารถรับการกล่าวร้ายของผู้อื่นได้ เพราะว่าผู้บังคับบัญชามักไม่อาจแยกแยะได้ว่า ใครมีความสามารถมากกว่าอีกฝ่ายหนึ่ง ในทางตรงข้ามกลับจะทำให้ท่านถูกตำหนิว่ากล่าว นี่คือผลของการไม่สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างกลมกลืน
หากต้องอยู่ร่วมในหมู่คน วิธีที่ดีที่สุดคือหยั่งรากลงให้ลึก ทำหน้าที่ด้วยความหนักแน่นมั่นคง ไม่พูดมาก ปฏิบัติภารกิจความซื่อสัตย์จงรักภักดี นี่ก็คือวิถีแห่งการครองตนที่ดี
 สมัยที่ตู้เหย่นอยู่ในตำแหน่งไจ่เซี่ยง ชนต่างเผ่าทางทิศเหนือและตะวันตกเริ่มรุกล้ำดินแดนเข้ามา ต่อมาซีเซี่ยและชี่ตานก็มาเจรจาสงบศึกตามลำดับ ดังนั้น อันตรายจากภายนอกจึงค่อยหมดสิ้นไป แต่ปรากฏว่าเหล่าขุนนางอำมาตย์ในราชสำนัก และพวกนักการเมืองต่างพากันแย่งชิงความเป็นใหญ่กันอย่างดุเดือด และด้วยสาเหตุนี้เอง ที่ทำให้ตู้เหย่นต้องถูกถอดออกจากตำแหน่ง เมื่อทำงานได้เพียง 70 วัน ตู้เหย่นมีชีวิตอยู่ในวงราชการ มีประสบการณ์ขมขื่นในแวดวงนั้นมากมาย ดังนั้น สิ่งที่เขาพูดจึงเป็นคำตักเตือนจากใจ

ต่อมา มีข้าราชการรุ่นหลังคนหนึ่งได้รับแต่งตั้งให้ไปเป็นนายอำเภอ ตอนที่เขาจะเดินทางไปรับตำแหน่ง ตู้เหย่นให้คนไปตามตัวเขามาพบ และเล่าถึงประสบการณ์ในชีวิตราชการให้เขาฟัง
แม้ว่าราชสำนักจะเห็นความสำคัญในตัวท่าน แต่งตั้งให้ท่านไปเป็นนายอำเภอ ที่สำคัญนั้นเป็นเพราะท่านมีความสามารถมากกว่าการเป็นนายอำเภอ แต่เมื่อรับตำแหน่งใหม่ๆ ท่านจะต้องเก็บซ่อนความสามารถของตัวเองให้แนบเนียน จะใจร้อนอยากเลื่อนตำแหน่งโดยเร็วไม่ได้ เพราะจะทำให้ท่านต้องพบกับอุปสรรค ผู้คนรอบข้างจะเกิดความรู้สึกต่อต้าน ท่านจะต้องทำตัวให้เข้ากับผู้ร่วมงานอย่างกลมกลืน มิฉะนั้นอาจมีเภทภัยมาถึงท่านโดยไม่รู้ตัว หากมารู้ตัวในตอนนั้นก็สายเกินไปเสียแล้ว ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดก็คือ ต้องเข้ากับพวกเขาให้ได้
นายอำเภอคนนั้นเมื่อได้ฟังคำพูดของตู้เหย่นก็เกิดความหงุดหงิด ดังนั้น จึงถามออกไปว่า
“โดยปกติท่านอาจารย์มักไม่ยอมรอมชอมกับผู้อื่น ทั้งตำแหน่งใหญ่อันสำคัญของประเทศชาติก็ไม่อาจรักษาเอาไว้ได้ ในเมื่อเคยมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น ทำไมวันนี้จึงยอมมาสอนข้าถึงวิถีทางในการทำงานราชการเพื่อสิ่งใดกัน ?
ถูกถามเช่นนี้ ตู้เหย่นจึงตอบว่า
“ข้านั้นเคยทำงานในราชสำนักมาหลายปี บัดนี้อายุมากแล้ว ประสบการณ์ที่พบผ่านมาตลอดชีวิตมีมากมาย ข้าเริ่มต้นจากตำแหน่งเล็กๆ ในตอนเริ่มแรก แล้วจึงค่อยๆ เป็นที่รู้จักของกษัตริย์และราชสำนักทีละน้อยๆ จนได้ขึ้นมาถึงตำแหน่งสูงในวันนี้ นั่นเป็นเพราะข้าก้าวทีละก้าว และก็เพราะเหตุนี้ที่ทำให้ข้ารู้สึกสะดุดใจต่อจุดยืนและปฏิกิริยาตอบสนองทางด้านการเมืองของข้า ดังนั้นข้าจึงได้มาตักเตือนท่าน”
ตอนนี้ท่านเป็นเพียงนายอำเภอคนหนึ่ง การเลื่อนตำแหน่งในวันข้างหน้าขึ้นอยู่กับทัศนะที่ผู้บังคับบัญชามีต่อตัวท่าน ถ้าหากว่าความสามารถของท่านมีมากกว่าผู้บังคับบัญชา นั่นย่อมเป็นอันตรายต่อความมั่นคงในตำแหน่งของผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บังคับบัญชาผู้อยู่ตำแหน่งเหนือกว่าท่าน ย่อมไม่ปล่อยให้ท่านได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นอย่างง่ายดาย เมื่อถึงเวลานั้น ไม่เพียงเขาจะไม่ยอมรับในความสามารถของท่าน แต่เขากลับจะมีอคติกับท่านอีกด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านจะไปถึงอุดมการณ์ของท่านได้อย่างไร ? ไม่เพียงเท่านั้น ยังอาจเป็นการนำภัยมาให้โดยไม่รู้ตัว เพื่อปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม ท่านจำเป็นต้องอดทนสักช่วงเวลาหนึ่ง พยายามทำตัวให้เข้ากับคนรอบข้างให้ได้ จึงจะไม่สร้างปฏิกิริยาต่อต้านขึ้น
ผู้ที่มีชีวิตอยู่ในแวดวงการเมืองมานับสิบปี ย่อมจะมีประสบการณ์ที่พบผ่านมาด้วยตัวเองไม่น้อย คำเตือนเหล่านี้เป็นคำแนะนำด้วยความจริงใจ และเป็นคำแนะนำอันมีค่ายิ่ง
เพราะว่าในชีวิตราชการนั้น ต้องทำให้ผู้บังคับบัญชาเห็นคุณค่าในตัวท่านก่อน แล้วจึงจะมีโอกาสเปิดให้แสดงความสามารถได้ แต่หากคิดถึงแต่เพียงการแสดงฝีมือความสามารถโดยไม่คำนึงถึงสิ่งอื่น บางครั้งกลับทำให้ต้องสูญเสียตำแหน่งและโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย

เรืองรอง รุ่งรัศมี 
แปลและเรียบเรียง


พิมพ์รวมเล่มครั้งแรกในหนังสือ "อ่านพงศาวดาร อ่านกลยุทธ์ ผิวขลุ่ยใต้ร่มไผ่" สำนักพิมพ์เคล็ดไทย กรกฎาคม 1994 

1 ความคิดเห็น:

  1. เรื่องนี้ ยังมีและเป็นจริงเสมอ ในวงราชการไทย
    มีไม่น้อยที่จ้าราชการที่มีความสามารถจะต้องยอมแลกความเป็นคนกับการเป็นสุนัขรับใช้เพื่อความปลอดภัยเจริญก้าวหน้า
    เพราะผู้บริหารที่มีสติปัญญาและคุณธรรมมีน้อย ยิ่งเรื่องราวของผู้น้อยที่ไม่รู้จัก ไม่รู้คุณค่า ผู้บริหารจะมีเวลามาใส่ใจได้อย่างไร
    อย่าว่าแต่ผู้บริหารที่สำคัญตนว่าตนเองมีคุณอันวิเศษนั้น ความยะโสและอคติจะทำให้มีเสี้ยวเวลามาสนใจผู้น้อยหรือความเห็นจากผู้น้อยหรือ?
    ผู้บริหารที่ไร้คุณธรรมไร้ความสามารถแต่เปี่ยมความทะเยอทะยานกลับจะได้คนที่ตนเห็นคุณค่าคือใช้ประโยชน์ได้ จึงจะเรียกใช้งาน
    หนึ่งในสองคุณต่าที่จะทำให้ผู้มีความสามารถถูกเรียกใช้ นอกจากความสามารถที่ผู้บริหารต้องการใช้ประโยชน์แล้ว ผู้บริหารที่ต่ำทรามมักเลือกคุณสมบัติพิเศษ คือ การเป็นสุนัขรับใช้ ไม่ใช่ความรู้ความสามารถและความรักที่มีต่อแผ่นดินและอาณาประชาราษฎร์ นี่คือ ๑ในความรู้ที่มารดาของ เยว่เฟย หรือ งักฮุย ไม่ได้สอนลูก ทำให้คำพูดที่สักบนแผ่นหลังของงักฮุยนำพาตนเองกลับมาให้ฮ่องเต้ไร้คุณธรรมประหาร
    ผู้บริหารไร้ความสามารถและไร้คุณธรรมอย่างฮ่องเต้ซ่งมีมากมายในราชการไทย
    จึงทำให้ข้าราชการไทยที่เติบโตเป็นใหญ่ระดับสูงล้วนแล้วแต่เป็นกังฉิน อย่าง ฉินไขว้ มีมากมาย
    ลักษณะสำคัญของฉินไขว้คือ การเป็นสุนัขรับใช้ ซึ่งผู้บริหารที่ไร้ความสามารถย่อมกังวลกับความสามารถของลูกน้อง แต่จะสบายใจในความเป็นสุนัขรับใช้เสมอ

    ตอบลบ