ค้นหาบทความ

วันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ยุคสมัย


วันเวลา
เพิ่มรอยประสบการณ์แก่ชีวิต
พร้อมๆ กันก็ทำให้ผู้คนเลอะเลือน
ตัวตนที่แท้
สะท้อนออกมาทั้งโดยตั้งใจและมิตั้งใจ
กระบี่ที่บิน
ควรค่าแก่การชื่นชมคารวะหากใช้ถูกทาง
น่าสมเพชเวทนาหากกวัดแกว่งฟาดฟันโดยไร้กติกา
ผู้พกพากระบี่
เป็นได้ทั้งจอมยุทธ์และอันธพาลเกเร
ขึ้นอยู่กับตัวตนของเขา
วันเวลา
สามารถสร้างและฆ่าผู้ถือกระบี่
เพราะด้วยตัวตนของเขา



ยุคสมัยที่ผู้คนพกพาดาบ กระบี่ หรือปืนโดยเปิดเผยคลี่คลายตัว อาวุธวันนี้มิได้มองเห็นโดยง่าย
แม้ว่ามีดและปืนจะยังคงเป็นอาวุธที่น่ากลัว แต่อาวุธหลายชนิดของคนยุคนี้ กลับน่ากลัวอย่างเหลือเชื่อ
รอยยิ้ม คำพูด ปากกา กล้องถ่ายรูป กล้องโทรทัศน์ หน้ากระดาษ งานสื่อสารมวลชน พรรคการเมือง นักเลือกตั้ง นายกรัฐมนตรี ที่ปรึกษา โมฆะบุรุษ เหล่านี้ล้วนทำร้ายผู้อื่นและสังคมได้
มืออาชีพหรือนักวิชาชีพก็ทำร้ายผู้อื่นและสังคมได้ เขาพกพาอาวุธหรือกลายเป็นอาวุธ ทำอันตรายหรือทำประโยชน์ขึ้นอยู่กับตัวตนของเขา แสดงออกทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ
การพร่ามัวต่อกฎกติกาเพียงเล็กน้อย ผลกระทบตามมาอาจคือการเปลี่ยนแปลงเส้นทางชีวิตของคุณ เรื่องเล็กๆ บางเรื่องส่งผลให้สงครามความคิดที่รอวันก่อตัว ไม่อาจเกิดขึ้น
บางทีหน่วยเชื้อของการปฏิวัติก็ตายลงง่ายๆ เพียงเพราะมืออันโง่เขลาแตะต้อง
กว่าที่จะหยัดร่างท้าทายแดดลม ต้องผ่านเวลาและอุปสรรคมากมาย
กว่าที่ลำต้นความคิดจะชูยอดสูง เตรียมกิ่งเตรียมก้านเพื่อให้ดอกใบอวดตัวเด่นชัด ประกาศเผ่าพันธุ์ที่แท้ ต้องผ่านการอำพรางต่อศัตรู รอคอยเวลาเหมาะสม
กว่าจะตระเตรียมกระบี่คมได้พร้อม ต้องทุ่มเท อดทนเพียงใด
แต่แล้ว... บางมือเป่าปากชี้บอกทิศทาง ประดุจมือสังหารที่ตระเตรียมการ ถูกบีบคั้นให้ออกจากที่ซ่อนตัว ที่เขามารอกระทำการอยู่ ณ ที่โล่งแจ้งนั้น เขาเดินโดดเดี่ยวกลับไปด้วยอาการปกติ ในความเงียบงันของเขา ยากจะมีใครเข้าใจว่า การสังหารศัตรูที่ยิ่งใหญ่ ยากจะเป็นจริงได้แล้ว

ยุคสมัยที่พกพาดาบ กระบี่ และปืน โดยเปิดเผยผ่านไปแล้ว หัวใจและปณิธานยิ่งใหญ่ของผู้คนก็ผ่านไปกับยุคสมัยด้วย ผู้คนทำงานเพียงเพื่อเลี้ยงชีพ มีชื่อเสียงเพื่ออวดโอ่ มีตัวตนเพียงแค่ตัวกูของกู
วันเวลา ได้ฆ่าผู้กล้า ผู้มีปณิธานยิ่งใหญ่ไปเท่าใดแล้ว
ยุคสมัยหรือตัวของเขากันแน่ ที่ไร้สาระแก่นสาร
ประสบการณ์ชีวิตเป็นแต่เพียงริ้วรอยสกปรกเปรอะเปื้อน หัวใจและความคิดเลอะเทอะยิ่งกว่า เป็นเพียงตรอกแคบโสมม ถือเศษเหล็กสนิทกินเนื้อใน ทว่าอวดอ้างว่าคือเหล็กไหลเนื้อดี
แสงแดดส่องฉายเพียงใด ตรอกแคบสกปรกก็ยังทอดตัวสู่ความเสื่อมทราม
คนเล็กๆ ที่เดินจากไปอย่างปกติธรรมดา ในความเงียบงันของเขา ยากนักที่จะมีใครเข้าใจว่า เขาได้เดินจากความมุ่งมั่นและปณิธานของเขาแล้ว ด้วยความจำใจ
เป็นตัวตนของเขาหรือยุคสมัยกันแน่ ที่ทำให้เป็นเช่นนี้

วันเวลา
เพิ่มรอยประสบการณ์แก่ชีวิต
นำพาเอาสติ ความแจ่มใสไปจากผู้คน
เพิ่มความเลอะเทอะเปรอะเปื้อน
ประกอบกันเป็นยุคสมัยอันอับทึบนี้


เรืองรอง  รุ่งรัศมี


พิมพ์ครั้งแรกในหนังสือ หมาป่าบนทุ่งกระดาษ สำนักพิมพ์วลี สิงหาคม พ.ศ.2549

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น