ค้นหาบทความ

วันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เงื้อมผาอดีต

บทกวี : สีอะคริลิค บนแคนวาส

หากยืนตรงเงื้อมผาสูง คนเราจะรู้สึกเหมือนอยู่ใกล้ขอบฟ้า ขณะเดียวกันความรู้สึกหวาดหวิวก็จะแล่นจับหัวใจได้ในทันใด หากว่าเขามองต่ำลงสู่หุบเหวลึกเบื้องล่าง
ผาสูงฉ่ำชื้น เหน็บหนาว และเปล่าเปลี่ยว รางเลือนสลัวหากมองจากที่ไกลๆ เมื่ออยู่บนพื้นราบ ผาสูงซ่อนตัวรางเลือนราวกับจะไปไม่ถึง แต่เมื่อมุ่งลึกเข้าไปในป่า ไต่ระดับความชันไปเรื่อยๆ หากใช้เวลายาวนานเพียงพอ น่าจะมีวันใดวันหนึ่งที่เขาพบตัวเองยืนอยู่ตรงเงื้อมผา ตรงรอยต่อระหว่างความจริงและความฝัน ตรงรอยต่อของความเจ็บปวดและความเอิบอิ่ม ตรงความเหนื่อยล้าต่อรองกับความมุ่งมั่น เป็นภาวะความรู้สึกหลากหลายคละเคล้าที่ยากจะแยกแยะบรรยาย

หลายปีมาแล้วที่เราไปเยือนขุนเขาด้วยกัน มิตรสหายกลุ่มเล็กๆ ที่เคยอยู่ป่าและที่ไม่เคยเข้าป่า เดินทางด้วยรถกระบะมุ่งหน้าไปตามถนนที่ทอดตัวไปกับขุนเขา หลายคนตั้งใจกลับไปค้นหาความหลัง ไปหากระท่อมที่เขาเคยนอน ไปเยี่ยมเยือนมิตรสหายคนเก่าที่ยังคงอบอุ่นในมิตรภาพ ไปพบกับความเปลี่ยนแปลงเกินกว่าที่เราคาดหมาย คนที่เคยอยู่ป่าคึกคักกระปรี้กระเปร่ากับการเดินทาง ขณะที่คนไม่เคยเข้าป่าเช่นข้าพเจ้า ตื่นเต้นกับการคาดเดาภาพแห่งอดีตของเพื่อน พร้อมทั้งคาดหวังกับการเดินทาง         
ป่าเคยเป็นความหวังโรแมนติกของคนหนุ่มสาวจำนวนไม่น้อย ป่าเป็นบันทึกอดีตบางบทของคนเข้าป่าและคนอยู่เมืองในยุคสมัยหนึ่ง เราต่างปีนไต่ความฝันไปตามวิถีที่เราทำได้ แม้ในหนทางที่แตกต่างกัน หลังจากพลพรรคคนหนุ่มสาวตีจากพรรคคอมมิวนิสต์คืนสู่นาคร ภายหลังเล็มเลียบาดแผลจนหายเจ็บช้ำ และป่ามิได้เป็นแดนต้องห้ามอีกแล้ว มิตรสหายกลุ่มเล็กๆ ของเราจึงได้นัดหมายเพื่อการเดินทางครั้งนั้น

รถของเราออกจากเมืองหลวงมุ่งสู่อีสานพร้อมกับเสียงเพลงและเสียงพูดคุย ต่างจากการหนีตายเข้าป่าด้วยความคับแค้นของเพื่อนหลายคนเมื่อครั้งอดีต รอยแผลในใจแม้ว่าจะเลือนลงบ้างแล้วแต่ก็ยังคงประทับแน่นในความรู้สึก ภายหลังจากที่แต่ละคนผ่านประสบการณ์ชีวิตหลากหลาย ริ้วรอยชีวิตทำให้เราต่างเติบโตขึ้นมาไม่น้อย เรื่องเล่าความหลังผุดพรายจากความทรงจำ ยอดผักหวาน เสียงร้องของสัตว์ แผ่นผา ลำธาร ล้วนแต่มีเรื่องราวตำนานชีวิต
รถของเราทิ้งห่างชุมชนไปทุกที แม้การสู้รบระหว่างกองทัพของรัฐกับกองกำลังของทหารป่าจะสงบลงแล้วใน พ.ศ.นั้น แต่ก่อนตะวันลับฟ้า เรารู้ว่าควรมีที่พักเพื่อความปลอดภัย รถของเราวิ่งเข้าสู่หมู่บ้านผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย อดีตนักรบจรยุทธ์กองทัพปลดแอก เพื่อนของเราอบอุ่นในมิตรภาพกับมิตรสหายเก่าของเขา เราทุกคนอิ่มท้องกับอาหารง่ายๆ และผักสดที่เด็ดจากแปลงผักข้างบ้าน อากาศกำลังหนาวเย็น มิตรสหายของข้าพเจ้าพูดคุยและถามข่าวคราวของผู้คุ้นเคยคนอื่น ๆ   
หลังจากสงครามแห่งอุดมการณ์ เมื่อวางอาวุธลงแล้ว พวกเขาเหมือนจะเข้าสู่สงครามในรูปแบบใหม่ สงครามชีวิตเพื่อความอิ่มท้องของตนเองและของครอบครัว ปีนผ่านเขาลูกหนึ่งมิได้หมายความว่าไม่มีภูเขาลูกอื่นขวางกั้น การทุ่มชีวิตให้กับการรบและการให้เหงื่อหลั่งรดผืนดิน ต่างก็เหน็ดเหนื่อยทุกข์ยาก นับประสาอะไรกับการปีนไม่ผ่านภูเขาลูกแรก

ข่าวคราวการมาเยี่ยมเยือนของพวกเราใน พ.ศ.นั้น อาจสร้างความยุ่งยากให้กับมิตรสหายเก่าของเพื่อนเราได้ ข้าพเจ้าเองก็หวาดหวั่นไม่น้อยในคืนวันนั้น เรารู้อยู่ในใจว่าสายตาของรัฐยังมองคนหนุ่มสาวและอดีตสหายด้วยความไม่ไว้วางใจนัก เราต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อเจ้าหน้าที่รัฐ โดยแจ้งจุดหมายล่วงหน้าตลอดการเดินทางเที่ยวนั้น ข้าพเจ้ารู้สึกใจหายเมื่อย้อนคิดกลับไป ในรถกระบะที่แล่นโดดเดี่ยวไต่ไปตามภูสูง นอกจากกล้องถ่ายรูป เครื่องนอน มีดปอกผลไม้แล้ว เราไม่มีอาวุธไปเลย เมื่อมองย้อมกลับสู่การเดินทางในครั้งนั้น ข้าพเจ้ารู้สึกเหมือนเรากำลังไต่เงื้อมผาอันน่าหวาดเสียว                 
เราไต่ขึ้นสูงจนสุดความสูงที่ถนนจะทอดไปถึง เราลัดเลาะไปตามบ้านมิตรสหายของเพื่อน ลึกเข้าไปจนรถต้องลุยป่า ตำนานชีวิตแต่ครั้งหนหลังของเพื่อนผุดพรายฉายชัดยิ่งขึ้นทุกที ข้าพเจ้าซึ่งไม่มีอดีตในป่า นอกจากความฝันโรแมนติกไร้เดียงสาวัยเยาว์ มองเห็นแต่เพียงป่าค่อนข้างโปร่ง ขณะที่เพื่อนหลายคนมองเห็นเงาอดีตตอนที่พวกเขาเป้ข้าว
เพื่อนคนหนึ่งพยายามค้นหาเส้นทางสู่กระท่อมเก่าของเขา ข้าพเจ้าเดินตามหลังมาค่อนข้างห่างเพราะสภาพร่างกาย เขาตื่นเต้นดีใจเมื่อค้นพบว่ามีร่องรอยไม้ผุกองหนึ่งตรงตำแหน่งที่เขาเชื่อว่าเคยเป็นกระท่อมทับของเขา ข้าพเจ้ามองเห็นเพียงกองไม้ผุเล็กๆ กองหนึ่งกับตำนานอดีตพร่ามัวของเพื่อน คาดเดาไม่ถูกว่าเพื่อนของข้าพเจ้ามองเห็นภาพเช่นไรบ้าง จะเหมือนความรู้สึกตอนที่ข้าพเจ้าได้ไปยืนตรงเงื้อมผาสูงหรือไม่ ยื่นมือออกไปเหมือนจะถึงเมฆ แต่ก็คว้าจับสิ่งใดไม่ได้ เหมือนความรู้สึกตอนมองต่ำสู่หุบเหวลึกเบื้องล่างบ้างไหม หวาดหวั่นแต่ก็ภาคภูมิใจที่ยืนอยู่สูงเพียงนี้ 

เราเดินทางกันทั้งวัน จากจุดหนึ่งสู่อีกจุดหนึ่ง แวะเยี่ยมเยียนมิตรสหายในที่ที่มีคนรู้จัก หยุดหาที่เหมาะๆ รับประทานอาหารที่เตรียมมาเมื่อหิว แวะให้เพื่อนช่างภาพถ่ายรูปดอกไม้ป่าไปเป็นระยะ แต่ดอกไม้ที่เคยบานและร่วงโรยในช่วงชีวิตของเพื่อนบางคน ป่าที่เคยปร่าในชีวิตช่วงหนึ่งของคนหนุ่มสาวจะงดงามลึกซึ้งหรือว่าปวดร้าวเพียงใด ผู้มิได้มีประสบการณ์ตรงร่วมด้วยได้แต่คาดเดา
            เพื่อนอีกคนหนึ่งชาวคณะของเรา ค้นหาภูผาแห่งเพลงสายลมหวีดหวิวด้วยความพยายาม สถานที่ธรรมดาบางแห่งไม่ธรรมดา เพราะด้วยตำนานความหลัง เราไปยืนอยู่ตรงจุดที่เพื่อนเราบอก เงี่ยหูฟังเพลงสายลมขับขาน เสียงหวูหวิวหวูอย่างนั้นข้าพเจ้าไม่เคยฟังด้วยความรู้สึกหลากหลายคละเคล้าจากที่อื่นเลย
หมายกำหนดกลับถูกเลื่อนออกไปวันหนึ่ง แล้วอีกวันหนึ่งเราไต่ไปตามเส้นทางอดีต ไปดูร่องรอยฝันเมื่อครั้งวัยเยาว์ ขอเพียงมีใครคนหนึ่งในกลุ่มเสนอขึ้นมาว่าไปต่ออีกวันหนึ่ง คนที่เหลือไม่มีความเห็นคัดค้าน กี่ปีก็ลืมเลือนแล้ว การเดินทางค้นหาอดีตและร่องรอยความฝันครั้งนั้น เราสมบุกสมบันกับสายลมหนาว รถกระบะของเราแล่นไปโดดเดี่ยว

            วันที่เรายืนอยู่ตรงเงื้อมผาสูง เหมือนว่าจะใกล้ขอบฟ้าอย่างยิ่ง แต่เราไปไม่ถึงฟ้า แม้หุบเหวลึกจะอยู่เบื้องล่าง แต่เราก็มิได้หล่นร่วงสู้ห้วงเหวนั้น
วันเวลาผ่านไปกับวันเวลา เราหวนรำลึกวันคืนก่อนเก่าที่ล่วงผ่านมา ภาคภูมิใจกับชีวิตที่เคยไปถึง ตรงที่ความจริงเชื่อมต่อกับความฝัน ตรงความเจ็บปวดและความอิ่มเอิบคละเคล้า เรายากที่จะลืมเลือน


เรืองรอง  รุ่งรัศมี


พิมพ์ครั้งแรก : นสพ.ผู้จัดการรายวัน 24-25 กันยายน 2539

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น