ตั้งแต่ยุคปลายๆทศวรรษที่ 1980
กระมังที่หนังจีนเริ่มออกไปเป็นที่สนใจของแวดดวงภาพยนตร์โลก
แรกเริ่มนั้นเพราะว่าหลังม่านไม้ไผ่เป็นโลกลึกลับของชาวตะวันตก
ความอยากรู้อยากเห็นเรื่องราวในแผ่นดินจีน ทำให้ภาพยนตร์ของกลุ่มผู้กำกับรุ่นที่ 5 ของจีนแผ่นดินใหญ่ อันมี จางอี้โหมว 张艺谋 และ เฉินข่ายเกอ
陈凯歌 เป็นหัวหอกเป็นที่จับตาของผู้สนใจทั่วโลก
หนังเรื่องแรกๆ ของกลุ่มผู้กำกับรุ่นที่
5 ของจีนมักเล่าเรื่องราวในยุคปฏิวัติวัฒนธรรม
อันเป็นช่วงเวลาที่สังคมจีนปิดตัวจากโลกภายนอก
เรื่องราวในช่วงเวลานั้นเปี่ยมด้วยสีสันและเรื่องราว มีทั้งโศกนาฏกรรมและอุดมคติ
มีฉากและบรรยากาศ มีตัวละครที่เปี่ยมพลัง องค์ประกอบเหล่านี้เป็นสิ่งใหม่ของโลกภาพยนตร์ในเวลานั้น
ไม่เฉพาะในกระแสภาพยนตร์โลก แม้แต่ในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์จีน
นี่ก็เป็นเรื่องใหม่เช่นกัน
ในวันเวลาเช่นนั้นกลุ่มผู้กำกับรุ่น
5 เป็นใบหน้าใหม่ของโลกภาพยนตร์ พวกเขาเต็มไปด้วยพลังและมีเรื่องเล่ามากมายที่จะบอกกล่าวต่อผู้คน
พวกเขามีประสบการณ์และวิชาความรู้ ตลอดจนประสบการณ์ชีวิตที่สด และแปลกใหม่เมื่ออยู่บนแผ่นฟิล์ม.
พวกเขาเป็นกลิ่นอายใหม่ที่ให้รสชาติถึงอกถึงใจแก่ผู้ชม
ภาพยนตร์เรื่องแล้วเรื่องเล่าจากจีนแผ่นดินใหญ่เคลื่อนจากตะวันออกไปสู่โลกตะวันตก
สามารถสร้างความประทับใจ และคว้ารางวัลในเทศกาลภาพยนตร์ต่างๆ ได้
ในแง่ความเป็นสินค้าวัฒนธรรม
เมื่อหนังมีความแปลกใหม่ ดูสนุก และมีรางวัลรับรอง
จึงกลายเป็นสินค้าที่มีโอกาสทำกำไรได้
เงื่อนไขเหล่านี้บวกกับโลกเทคโนโลยีที่เคลื่อนตัวจาก
วีดีโอ , เลเซอร์ ดิส , วีซีดี , ดีวีดี ทำให้หนังสามารถบันทึกในรูปแบบใหม่ๆ
ในราคาที่ผู้คนวงกว้างสามารถเป็นเจ้าของได้ ประกอบกับอุปกรณ์การดูหนังในบ้านก็พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว
การสามารดูหนังในบ้านสำหรับคนทุกระดับชั้นทางเศรษฐกิจเช่นนี้มีส่วนกระตุ้นให้ตลาดการค้าหนังข้ามพรมแดนทางภูมิศาสตร์
ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถลงทุนในธุรกิจนี้ได้ทั้งในฐานะผู้สร้างและผู้ค้า
เมื่อมีทั้งผู้ขาย ผู้สร้าง และผู้ซื้อ ธุรกิจนี้ก็ครบวงจร
และมันก็หมุนวงรอบของมันไปเรื่อยๆ
เป็นทั้งโรงงานผลิตสินค้าและโรงงานผลิตความฝันของผู้คน
ที่จริงแล้วหนังจีนได้ออกไปสู่โลกตะวันกตั้งแต่ยุคเฟื่องฟูของบริษัท
ชอว์ บราเธอส์ 邵氏 ในยุคหนังกำลังภายในตั้งแต่ช่วงคาบเกี่ยวของยุค
หวังหยู่ 王羽 , เดวิด เจียง 姜大衛 , ตี้หลุง 狄龍 , บรู๊ซ ลี 李小龍 , และ เฉินหลง 成龍 เพียงแต่ว่านั่นเป็นกลุ่มหนังที่เน้นความบันเทิงจากฮ่องกง
แต่หนังเพื่อความบันเทิงกลุ่มนี้ก็ส่งอิทธิพลอย่างมากต่อผู้กำกับอย่าง
เควนติน ตาเลนติโน หนังอย่าง KILL BILL ของ เควนติน ตาเลนติโน
แสดงให้เห็นอย่างเด่นชัดว่าในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต
เขาได้ดูหนังกำลังภายในจากฮ่องกงอย่างจ่อมจมลงไปในห้วงลึก
เครื่องแต่งกายตัวเอกฝ่ายหญิงคือเครื่องแต่งกายของบรู๊ซ ลี และบุคลิกตัวละครฝ่ายผู้ร้ายก็มาจากหนังกำลังภายในยุคเก่า
เราคงไม่สามารถมองข้ามภาพยนตร์จีนกลุ่มนี้เมื่อพูดถึงหนังจีนโดยรวมในยุคปัจจุบัน
มีหนังจีนกำลังภายในเรื่องหนึ่งของ
คิง ฮู (king hu หูจินฉวน 胡金全) เคยได้รับรางวัลเทคนิคยอดเยี่ยมที่เมืองคานส์
เรื่อง A TOUCH OF ZEN 俠女 ใครเคยดูหนังเรื่องนี้จะเห็นร่องรอยของหนังเรื่อง 臥虎藏龍 (COUCH TIGER , HIDDEN DRAGON ) ของ หลี่อาน 李安 Ang Lee ซึ่งได้รางวัลมากมายในปี ค.ศ. 2000
หลี่อาน 李安 Ang Lee เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ชาวไต้หวันที่ผลงานเป็นที่ยอมรับในวงกว้างทั้งโลกตะวันตกและโลกตะวันออก เขาศึกษามาทางด้านภาพยนตร์และการละครทั้งจากไต้หวันและสหรัฐอเมริกา
เป็นนักเรียนภาพยนตร์แบบศิษย์มีครูเช่นเดียวกับกลุ่มผู้กำกับรุ่นที่ 5 ของจีนแผ่นดินใหญ่ แตกต่างกันตรงที่ จางอี้โหมว และ
เฉินข่ายเกอ ศึกษาจากสถาบันที่สอนด้านภาพยนตร์ภายในจีนแผ่นดินใหญ่
ส่วนหลี่อานเรียนทั้งจากสถาบันในไต้หวันและอเมริกา
โดยมีวุฒิการศึกษาสูงสุดถึงปริญญาเอกด้านภาพยนตร์
วุฒิการศึกษามิได้เป็นเงื่อนไขสำคัญสำหรับผู้สร้างสรรค์ผลงานด้านศิลปะ
แต่ความลึกซึ้ง , ความเข้าใจที่ทะลุปรุโปร่ง
ตลอดจนความคาดหวังกับตัวเองในแง่ผลงานต่างหาก ที่เป็นสิ่งแยกแยะคนในสายงานด้านนี้
หลี่อานเริ่มมีผลงานกำกับภาพยนตร์ เผยแพร่ในวงกว้างตั้งแต่ปี
ค.ศ.1992 ด้วยเรื่อง "ผลักมือ"
推手 pushing hands ต่อด้วยเรื่อง The Wedding
Banquet 喜宴 ในปี 1993, ปี 1994 สร้างความลือลั่นอีกครั้งด้วยเรื่อง EAT , DRINK , MAN , WOMEN 飲食男女
หนังไตรภาคชีวิตครอบครัวนี้ 2 เรื่องแรกเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสังคมตะวันตก
แล้วเรื่องท้ายกลับมาใช้พื้นที่ของสังคมตะวันออก
นี่คือผลงานชุดแรกที่ทำให้แสงสปอร์ต ไลท์จับอยู่กับตัวเขา
และเปิดประตูพาเขาก้าวสู่โลกภาพยนตร์ที่ฮอลลีวู้ด เมืองหลวงของวงการภาพยนตร์โลก
ผ่านจากผลงานไตรภาคชีวิตครอบครัว
ด้วยการได้รับทั้งกล่องและเงิน ฝีก้าวต่อไปในแวดวงภาพยนตร์โลกของหลี่อานก็เป็นไปอย่างมีความหวัง
ค.ศ. 1995 เขากำกับภาพยนตร์ที่สร้างจากวรรณกรรมอังกฤษ เรื่อง
sense and sensibility คราวนี้หนังทั้งเรื่องมิได้ใช้ประโยชน์จากตัวละครที่เป็นคนตะวันออกโดยสิ้นเชิง
และเขาก็ทำได้ดีมาก จนได้รับยกย่องว่าเป็นผู้กำกับที่ทำความเข้าใจตัวละครในฐานะ "มนุษย์"
ได้ลึกซึ้งข้ามพ้นความเป็น "ชนชาติ" สู่การมองพินิจ "มนุษย์" ได้เป็นอย่างดี
ค.ศ. 2000 Crouching Tiger, Hidden Dragon 臥虎藏龍 กลับไปสู่ความเป็นจีนคลาสสิคแบบหนังกำลังภายในที่ลึกซึ้ง
ในหนังเรื่องนี้เราจะเห็นร่องรอยของ A TOUCH OF ZEN 俠女 ของ คิง ฮู (king
hu หูจินฉวน 胡金全) อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ
แล้วปี ค.ศ. 2005 Brokeback Mountain ก็พาไปทำความเข้าใจกับตัวละครชาย
2 คนกับความสัมพันธ์อันซับซ้อนละเอียดอ่อน
ค.ศ.2007 เขาได้คว้ารางวัลสิงโตทองคำของเทศกาลภาพยนตร์เวนิซ
จากภาพยนตร์เรื่อง Lust, Caution 色,戒
ค.ศ. 2012 ชีวิตอัศจรรย์ของพาย
(Life of Pi) ก็สร้างความตื่นตาตื่นใจกับความสามารถในการเล่าเรื่องราวแปลกประหลาดที่เล่ายากมาก
และการตีความปรัชญาอันลึกซึ้งเกี่ยวกับมนุษย์ ความศรัทธา ชีวิต และ โลก
ตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมา
หนังจากการกำกับของหลี่อานล้วนเป็นผลงานที่เขา "เต็มที่" กับมัน
แม้ว่าจะมีผลงานบางเรื่องที่ไม่ประสบผลทั้งทางด้านรายได้และรางวัล
แต่ไม่มีผลใดเลยที่เขาจะผ่านมันไปอย่างสุกเอาเผากิน
หากจะบันทึกรายละเอียดรางวัลที่หลี่อานได้รับจากผลงานของเขาคงต้องใช้พื้นที่มากกว่านี้หลายเท่า
รวมๆ แล้วนับถึงปี 2013 เขาได้รางวัลต่างๆ
มาครอบครองร่วม 100 รางวัลจากนานาชาติทั่วโลก
ถือเป็นคนทำหนังมือรางวัลคนสำคัญที่สุดคนหนึ่งของโลกปัจจุบัน
และอยู่เหนือพ้นความเป็นเอเชียหรือตะวันตก ก้าวสู่พรมแดนผู้สร้างสรรค์งาน "ของโลก"
อย่างเต็มตัวแล้ว
เรืองรอง รุ่งรัศมี
4/7/2013
ตีพิมพ์ครั้งแรกในคอลัมน์ Dragon square นิตยสาร Mix
magazine ฉบับเดือน สิงหาคม 2013
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น