ลมเย็นยามค่ำโชยพลิ้ว
จันทร์กระจ่างทอแสงนวลกลางฟ้า บรรยากาศช่างปลอดโปร่งชวนให้รู้สึกสบาย
จินตนาการไปว่าเอื้อมคว้าเอาดวงเดือนบนฟ้าลงมากอดแนบอกได้พลันนั้น
เพลงพิณดังมาจากเครื่องเสียงที่เปิดไว้
“เพลงพิณพระจันทร์” ทำให้ค่ำคืนเช่นนี้งดงามยิ่งขึ้น
เสียงนั้นเร้ารัว สดใส และทรงพลัง
“พิณพระจันทร์” หรือ “พิณวงเดือน”
เป็นเครื่องดนตรีจีนโบราณชิ้นหนึ่ง ภาษาจีนเรียกว่า “เยว่ฉิน” “เยว่” แปลว่า
พระจันทร์หรือดวงเดือน “ฉิน” แปลว่า พิณ “เยว่ฉิน” จึงถูกเรียกในภาษาไทยว่า
“พิณพระจันทร์” หรือ “พิณวงเดือน” เป็นเครื่องดนตรีจีนที่มีชื่อไทยไพเราะ
และบ่งบอกถึงลักษณะเฉพาะได้อย่างชัดเจนงดงามที่สุด
พิณพระจันทร์หรือพิณวงเดือน
เป็นพิณรูปวงกลมเหมือนจันทร์เต็มดวง มีสาย 4 สาย แต่คอสั้นกว่ากีตาร์ ไวโอลิน
หรือแบนโจของฝรั่ง โดยรูปลักษณ์แล้ว พิณพระจันทร์มีรูปทรงคล้ายแบนโจของฝรั่งมาก
เพียงแต่ลำตัวที่เป็นวงกลมหรือวงเดือนของเยว่ฉินมีขนาดใหญ่กว่า และมี “คอ”
ที่สั้นมาก
ลักษณะน้ำเสียงของพิณพระจันทร์ใกล้มาทางเสียงพิณของภาคอีสานและภาคเหนือของเรา
วิธีการเล่นก็คล้ายคลึงกับวิธีการเล่นพิณไทย เครื่องดนตรีประเภทพิณของชาวเขาทั้งเอเชีย
และพิณพื้นบ้านทั้งหลายในย่านซีกโลกตะวันออก ถือเป็นเครื่องดนตรีที่เป็น
“เครือญาติ” ของพิณพระจันทร์ได้ทั้งในแง่ของรูปร่าง น้ำเสียง และวิธีการเล่น
ในยุคโบราณ
พิณพระจันทร์มีชื่อเรียกภาษาจีนอีกชื่อหนึ่งว่า “หญ่วน” หญ่วนในสมัยโบราณของจีนกับพิณซามิเซ็นของญี่ปุ่นนั้นคล้ายกันมาก
พิณพระจันทร์หรือเยว่ฉินในปัจจุบันนี้ได้ดัดแปลงพัฒนามาจาก “หญ่วน”
ในยุคโบราณนั่นเอง
พิณพระจันทร์เป็นเครื่องดนตรีที่เล่นกันแพร่หลายมากในประเทศจีน ในดนตรีของชนพื้นเมือง
และในการแสดงงิ้ว พิณพระจันทร์ก็ถือเป็นเครื่องดนตรีชิ้นสำคัญ
ในคณะดนตรีที่เล่นประกอบการแสดงงิ้ว (จิงจวี้)
นั้น เยว่ฉินถือเป็นเครื่องดนตรีชิ้นสำคัญ 1 ใน 3 ชิ้น
ซึ่งประกอบด้วย เยว่ฉิน เอ้อร์หู และจิงเอ้อร์หู้
เครื่องดนตรีทั้งสามชิ้นนี้ถูกเรียกว่า “3 เครื่องดนตรีหลัก”
หรือ “ซานต้าเจี้ยน”
ชนชาติอี๋ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนนั้น
เรียกเยว่ฉินหรือพิณพระจันทร์ว่า “เสวียนจื่อ”
พวกเขามีความคุ้นเคยกับเครื่องดนตรีชิ้นนี้มาก
และนิยมเล่นกันอย่างแพร่หลายในเวลาขับระบำรำฟ้อนในชีวิตประจำวัน
พิณพระจันทร์แต่ดั้งเดิมนั้นมิได้มีช่วงเสียงกว้างอย่างในปัจจุบัน
ที่นิยมบรรเลงอยู่ในปัจจุบันนี้เป็นพิณพระจันทร์ที่ได้ผ่านการพัฒนาและปรับปรุงทั้งในด้านช่วงเสียง
และนำเอาสายไนลอนอย่างสมัยใหม่มาขึงแทนสายที่ทำจากเส้นไหมแต่เดิมด้วย
แผ่น YUEQIN AND ORCHESTRA LEI QIN-AN ของบริษัท HUGO แห่งฮ่องกง รหัสแผ่น HRP 7102-2 นี้ เป็นแผ่นน่าสนใจอย่างยิ่ง สำหรับคอเพลงคลาสสิคจีน
ซีดีแผ่นนี้บันทึกระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน -1 กรกฎาคม 1994 ที่ RECORDING STUDIO OF PLA
ORCHESTRA ในปักกิ่ง ผู้บรรเลงเดี่ยวเยว่ฉินหรือพิณพระจันทร์นี้ คือ
เหลยฉวินอาน โดยเธอร่วมเล่นกับวง THE SYMPHONY ORCHESTRA OF THE
CENTRAL BALLET COMPANY (จงยางปาเหลยอู่เจียวเสี่ยงเยว่ถวน)
ผู้อำนวยเพลงคือ เปี่ยนจู่ซ่าน ลีลาท่วงทำนองโดยรวมของแผ่นนี้
มีกลิ่นอายของเพลงที่ใช้บรรเลงประกอบการแสดงบัลเล่ต์อย่างชัดเจน คอเพลงคลาสสิคฝรั่งสามารถรับฟังได้อย่างไม่รู้สึกแปลกแยกมากนัก
ตลอด 65.18 นาที ที่นั่งฟังซีดีชุดนี้
เราจะสัมผัสได้ถึงฝีมือการเล่นและการกำกับเพลงที่เด็ดขาด ชัดเจน เสียงแต่ละเสียงที่เปล่งออกมาในบทเพลงล้วนเต็มไปด้วยความมั่นใจของตัวผู้เล่นและผู้อำนวยเพลง
หากสามารถเปิดฟังด้วยเสียงดังๆ ได้ จะยิ่งทำให้เพลงชุดนี้เปล่งอานุภาพได้ดียิ่งขึ้น
รายละเอียดเกี่ยวกับตัวเหลยฉวินอาน ผู้บรรเลงพิณเยว่ฉินที่ให้มาในแผ่นเสียงมีว่า
เหลยฉวินอานสำเร็จการศึกษาด้านดนตรีมาจากแผนกการดนตรีในวิทยาลัยนาฏศิลป์และการดนตรีแห่งประเทศจีน
เมื่อปี ค.ศ.1984 เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้ว ได้รับการบรรจุเข้าเป็นอาจารย์สอน ณ
สถาบันที่เธอเคยเรียนนั้นเอง ปัจจุบันเธอเป็นสมาชิกของสมาคมดนตรีแห่งชาติ
และเป็นสมาชิกสมาคมนักดนตรีแห่งปักกิ่งอีกด้วย
เหลยฉวินอานเกิดในครอบครัวตระกูลช่างตัดเย็บเสื้อผ้า
บิดาเป็นคนที่หลงใหลในอุปรากรงิ้ว และส่งอิทธิพลความชอบนี้มาถึงเธอด้วย ทำให้เธอเกิดความนิยมชมชื่นการเล่นพิณเยว่ฉินตั้งแต่วัยเยาว์
เธอได้เป็นศิษย์เรียนการบรรเลงพิณเยว่ฉินกับอาจารย์ จินลี่ฮว๋า
ในคณะงิ้วที่อู่ฮั่น ฝีมือความสามารถของเธอก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ค.ศ.1978
เธอได้รับคัดเลือกเข้าเรียนในวิทยาลัยการดนตรีและอุปรากรจีน
ระหว่างนี้เธอได้รับคำชี้แนะจากอาจารย์ ชุยหย่งขุย และอาจารย์ เฝิงซ่าว
ทำให้สามารถพัฒนาเทคนิคการเล่นพิณเยว่ฉินได้อย่างมาก ค.ศ.1984 เธอสำเร็จการศึกษาด้วยคะแนนดีเด่น
สำหรับ เปี่ยนจู่ซ่าน ผู้เป็นวาทยกรนั้นก็มีชื่อเสียงเลื่องลือ
มีผลงานบันทึกแผ่นเสียงและกำกับดนตรีมามาก ชื่อของท่านเป็นอีกชื่อหนึ่งที่สามารถประกันถึงความสมบูรณ์แบบของผลงาน
วงดนตรี THE SYMPHONY ORCHESTRA OF THE
CENTRAL BALLET COMPANY ของจีน
เป็นวงดนตรีเก่าแก่ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1959
มีผลงานการแสดงบรรเลงประกอบการแสดงบัลเล่ต์ ทั้งที่เป็นเรื่องทางตะวันตกและเรื่องของจีนเองมามากมาย
ฟังซีดีแผ่นนี้แล้ว
จะรับรู้ได้ถึงความลงตัวสมบูรณ์แบบของนักดนตรีทั้งวง และฝีมือการอำนวยเพลงได้อย่างน่าชื่นชม
ฝีมือนั้นเต็มเปี่ยมทั้งความเด็ดขาด ชัดเจน และมั่นใจ
บทเพลงในซีดีแผ่นนี้มีทั้งหมด 5 บทเพลงใหญ่
เป็นเพลง SUITE เสีย 1 เพลง และเป็น CONCERTO
อีก 1 บทเพลง
SUITE FOR YUEQIN “SPRING” เป็นเพลง SUITE สำรับแรกแบ่งเป็น 4 ท่อนย่อย อยู่ในแทร็คที่ 1, 2, 3, 4 ของแผ่น
เพลงนี้แต่งโดย เฉิงข่าย เห็นชื่อเพลงในภาษาจีนแล้วอยากเรียกชื่อเพลงนี้ว่า
“เพลงพิณพระจันทร์ชุด ‘เพลงวสันต์’”
แทร็คที่ 1 “คืนสู่วสันตกาล” หรือ RETURNING
OF SPRING เปิดเพลงเหมือนลีลาของเสียงกบเขียดที่ตื่นฟื้นจากการจำศีลในฤดูหนาวอันยาวนาน
เราจะรับรู้ได้ถึงสายลมที่พลิ้วพัด และความสดชื่นอ่อนโยนของการคืนสู่ฤดูใบไม้ผลิอีกครั้งหลังจากฤดูหนาวอันหนาวเหน็บ
ต้นไม้พากันแตกใบและหน่ออ่อน ดอกไม้แย้มบาน หมู่นกและแมลงบินฟ้อน
เป็นบรรยากาศที่ชวนให้สดชื่นเบิกบานใจ เพลงในแทร็คที่ 1 นี้
ฟังรื่นหู สดใส น่าชื่นบาน
แทร็คที่ 2 “ระบำวสันต์” หรือ
DANCING OF SPRING ท่วงทำนองคึกคักขึ้น
เสียงกระหึ่มคึกคักของดนตรีทั้งวง ชวนให้รู้สึกอยากลุกขึ้นมาเต้นระบำรำฟ้อน
เป็นท่วงทำนองที่สนุกสนาน สดใส และสง่างาม ฟังคุ้นหูมาก สำหรับคนฟังเพลงจีน
แทร็คที่ 3 “เพลงวสันต์” หรือ SPRING
SONG เปิดเพลงด้วยเสียงขลุ่ยพลิ้วไหว ลีลาคล้ายท่วงทำนองของ THE
BUTTERFLY LOVERS อยู่พอสมควร
และแล้วเสียงของเยว่ฉินหรือพิณพระจันทร์ก็ดังสอดรับอย่างอ่อนหวาน ไพเราะ
เป็นบทเพลงแห่งฤดูใบไม้ผลิที่หวานไหว เราจะรู้สึกถึงฟ้ากว้างสดใส สายลมเย็นสบาย
เหมือนจะดมดอมได้ถึงกลิ่นหอมของมวลดอกไม้ และได้แลเห็นสีสันงดงามของธรรมชาติ
เป็นลีลา ท่วงทำนองที่ให้ความรู้สึกฉ่ำเย็น อ่อนโยน หรืองดงามอย่างเต็มที่
แทร็คที่ 4 “ท่องวสันต์” หรือ OUTING
SPRING ลีลาคึกคักสดใส
ชวนให้คิดถึงการออกท่องเที่ยวไปด้วยความเบิกบานและปลอดโปร่งใจเป็นอย่างยิ่ง
จากแทร็คที่ 1-4 รวมกันเป็นเพลงชุด
จะแยกฟังเดี่ยวๆ หรือฟังต่อเนื่องทั้งสี่แทร็คก็ดูลงตัวและไพเราะ สมบูรณ์
เป็นเพลงหวาน ไพเราะ ที่ปราศจากกลิ่นอายความหม่นเศร้า
ฟังแล้วชื่นบานใจเป็นอย่างยิ่ง
แทร็คที่ 5 “วสันตกาลที่เทียนซาน”
หรือ SPRING IN TIANSHAN เดิมเพลงนี้เป็นเพลงสำหรับบรรเลงเดี่ยว
ด้วยเครื่องดนตรีพื้นบ้านของชนชาติอุยกูร (UYGUR) ที่เรียกว่า
REWAFU เป็นเพลงที่แต่งขึ้นโดย อูซื่อหม่านเจียง
และอวี๋หลี่ฉุน และต่อมา หวางฟ่านตี้ ได้นำมาเรียบเรียงใหม่เพื่อให้ใช้เล่นกับพิณผีผา
(พิณรูปหยดน้ำ) ในปี ค.ศ.1961 ทำให้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายต่อมา
จากนั้น สวีเจิ้นหมิง
ได้นำมาเรียบเรียงใหม่เพื่อให้ใช้แสดงเดี่ยวด้วยพิณเยว่ฉินร่วมกับวงออร์เคสตร้า
เพลง “วสันตกาลที่เทียนซาน” นี้
เริ่มด้วยเสียงของออร์เคสตร้าทั้งวง จากนั้นเยว่ฉินจะรับด้วยเสียงอันสดใส
แล้วขลุ่ยก็สอดร้อยเป็นท่วงทำนองที่สดใส รื่นเริง
ดนตรีลื่นไหลไปอย่างสดใสงดงามเช่นนี้อยู่ช่วงหนึ่ง
แล้วจึงร้อนแรงขึ้นด้วยลีลาท่วงทำนองที่มีสีสันบรรยากาศ แบบดนตรีของชาวมุสลิมในแถบถิ่นทะเลทราย
เสียงดนตรีที่คึกคักนี้ ถ้าสามารถเปิดฟังด้วยเสียงดังๆ จะให้ความรู้สึกที่สนุกสนานมาก
ดนตรีมีลูกเล่น ฟังเร้าใจ ชวนให้ขยับแข้งขยับขาตามจังหวะทำนอง
ถ้าฟังเพลงนี้อยู่กลางแจ้งในกลุ่มมิตรสหาย
ก็น่าลุกขึ้นมาจับคู่เต้นระบำกันอย่างยิ่ง
เป็นเพลงที่สดใส มีชีวิตชีวา เปี่ยมพลัง
จบลงอย่างหมดจดและเต็มอิ่มในอารมณ์ ฟังแล้วโล่งอกโล่งใจไม่น้อย ใครกำลังเครียด
เพลงนี้เป็นเพลงคลายเครียดที่ใช้ได้เลย
แทร็คที่ 6 “เย่เซินเฉิน” หรือ “ดึกดื่น”
หรือ NIGHT THOUGHTS เป็นเพลงหนึ่งที่ใช้ประกอบงิ้วบ่อยๆ
คนที่ชอบดูงิ้วหรือแฟนหนังกำลังภายในรุ่นเก่าคงคุ้นหู
เป็นเพลงที่เมื่อนำมาเล่นร่วมกับวงดนตรีใหญ่ๆ แล้วให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่ สง่างาม
และฟังเต็มอิ่มในอารมณ์มาก
ระหว่างแทร็คที่ 6 กับ 7 เพลงหักอารมณ์รุนแรงไปนิดหนึ่ง
กำลังฟังเพลินๆ อยู่ในอารมณ์แบบหนึ่ง แล้วพลันต้องมาฟังเพลงที่หนักหน่วง
เคร่งเครียด จริงจัด โดยทันที ทำให้รู้สึกสะดุดเหมือนหัวคะมำ
ทำให้รับอารมณ์ของเพลงที่ 7 ได้ไม่ค่อยทัน
แทร็คที่ 7 “นิรวาณ” หรือ NIRVANA เป็นเพลงที่แต่งขึ้นจากบทกวีขนาดยาวเรื่อง “นิรวาณแห่งเฟิ่งฮว๋าง”
(เฟิ่งฮว๋างเนี่ยผาน) ของ กวอมว่อยว่อ กวีใหญ่คนหนึ่งของจีนยุคใกล้
เพลง “นิรวาณ” หรือ “นิพพาน”
นี้อยู่ในลีลากึ่งๆ ระหว่างเพลงประกอบภาพยนตร์และเพลงอุปรากร
แต่ค่อนไปทางเพลงอุปรากรมากกว่า มีช่วงที่กระหน่ำเสียงอย่างหนักหน่วงรุนแรงและต่อเนื่องอยู่หลายช่วง
หากไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรับดนตรีที่หนักหน่วงและจริงจังแล้ว อาจทำให้หงุดหงิดได้
แต่หากว่าอารมณ์พร้อม
เพลงนี้จะทำให้รู้สึกถึงพลังอันยิ่งใหญ่ได้เป็นอย่างดี
ถือเป็นเพลงหนวกหูและน่าเบื่อสำหรับคนที่ชอบฟังเพลงเสียงเรียบรื่น
สดใส เบาสบาย แต่เป็นเพลงฟังสะใจสำหรับคอเพลงที่ชอบเสียงเครื่องเป่าแผดดัง
กลองรัวกระหน่ำก้อง บรรยากาศแทบถล่มทลายในบางช่วง สลับกับท่วงทำนองที่บาดลึก
โหยเศร้า
ออกจะต้องใช้สมาธิมากหน่อยสำหรับเพลงนี้
และหากฟังตอนดึกๆ ในสถานที่การเก็บเสียงไม่ดี ระวังวัตถุลึกลับมากระทบบ้านหรือร่างกายไว้บ้างก็ดี
แทร็คที่ 8, 9, 10 เป็นเพลงชุดคอนแชร์โต้ “เปียนไจ้เฟิงฉิง”
หรือ YUEQIN CONCERTO “CUSTOMS IN BORDERLAND VILLAGE” เพลงนี้สวีเจิ้นหมิงแต่งขึ้นเมื่อปี 1992
ตามคำขอของเหลยฉวินอาน ถือเป็นคอนแชร์โต้สำหรับพิณเยว่ฉิน ที่แต่งขึ้นเป็นบทแรก
โดยผู้แต่งเก็บซับบรรยากาศและความประทับใจจากครั้งไปเยือนยวิ๋นหนาน (ยูนนาน)
เมื่อเดือนเมษายน 1982
เพลงบรรยายถึงดินแดนห่างไกล ฟ้ากว้าง
แลดูเวิ้งว้างสุดลูกหูลูกตา บรรยากาศแฝงความหม่นหมอง เปล่าเปลี่ยวอยู่ในที
จากบรรยากาศที่เรียบเรื่อยในช่วงแรก
แล้วเปลี่ยนเป็นคึกคักในเวลาต่อมา สลับด้วยท่วงทำนองหวานๆ ที่สดใสขึ้น
สามารถนำพาอารมณ์ผู้ฟังให้เคลิ้ม คล้อยตามได้เป็นอย่างดี โดยสลับช้าเร็วไปเรื่อยๆ
นำพาอารมณ์ให้สูงขึ้นๆ จนสู่จุดสูงสุด แล้วค่อยผ่อนคลายเบาลงๆ แทร็คที่ 8 นี้เป็นการเล่าเรื่องราวสมดังชื่อเพลงภาษาอังกฤษว่า
BALLADE
แทร็คที่ 9 “เพลงรัก” หรือ LOVE
SONG เป็นเพลงรักในบรรยากาศป่าเขา เยว่ฉินยังคงเป็นเสียงที่โดดเด่นงดงาม
ให้ความรู้สึก ขลุ่ยและดนตรีทั้งวงบรรเลงรองรับสอดประสานอย่างยิ่งใหญ่
เป็นเพลงรักหวานล้ำที่ฟังไพเราะยิ่ง
แทร็คที่ 10 “เพลงระบำ” หรือ DANCE ดนตรีทั้งวงเปิดเพลงอย่างยิ่งใหญ่
แล้วเยว่ฉินก็เล่นทำนองหลักให้ทั้งวงเดินตาม เคล้าคลอไปอย่างไพเราะ
ลีลาของเพลงปลอดโปร่ง เบาสบาย ลื่นไหลทั้งเพลง โดยจบท้ายเพลงลงด้วยความรื่นเริง
เด็ดขาด
YUEQIN CONCERTO “CUSTOMS
IN BORDERLAND VILLAGE” ให้ภาพและความรู้สึกถึงดินแดนห่างไกลที่หมดจดงดงามและเต็มอิ่มในอารมณ์
ฟัง “เพลงพิณพระจันทร์”
ในซีดีแผ่นนี้ด้วยความเอิบอิ่ม โปร่งใจ แหงนมองดวงจันทร์บนฟ้า
อยากเอามากอดแนบอกแล้วบรรเลงเพลงพิณให้ใครต่อใครฟังเหลือเกิน
และถ้ามีตาซึ้งๆ
อีกคู่ร่วมมองดวงจันทร์ด้วยแล้ว เพลงพิณพระจันทร์
คงหวานและหวามเสียจนอยากตากน้ำค้างอาบแสงจันทร์นวลจวบจนฟ้ารุ่งราง
เรืองรอง รุ่งรัศมี
พิมพ์รวมเล่มครั้งแรกในหนังสือ “ขลุ่ยผิวพิณพระจันทร์”
แพรวเอนเตอร์เทน พ.ศ.2542
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น