ค้นหาบทความ

วันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ความหวัง


1.
นางเป็นกรรมกร ทำงานโรงงาน รายรับของนางมากกว่าแรงงานขั้นต่ำเล็กน้อย นางนุ่งเจียม ห่มเจียม ใช้จ่ายประหยัด แต่ก็อดจะซื้อหวยเสี่ยงโชคบ้างไม่ได้
นางซื้อหวยใต้ดินงวดละเล็กละน้อย ซื้อล็อตเตอรี่งวดละ 2 ใบ การเสี่ยงโชคเช่นนี้เป็นความหวังของนาง
ผู้จัดการเตือนนางบ่อยๆ ว่า นางหวังลมๆ แล้งๆ แต่ไม่ซื้อหวย ไม่ซื้อล็อตเตอรี่ นางก็ไม่รู้ว่าจะหวังอะไร
นอกจากซื้อหวย ซื้อล็อตเตอรี่แล้ว นางยังชอบซื้อทอง เรื่องซื้อทองนี่ก็เหมือนกัน ผู้จัดการเคยคำนวณให้นางดูว่า นางโง่และเสียเปรียบที่ซื้อทองหนักครั้งละสลึง ต้องเสียค่ากำเหน็จเยอะ และซื้อขายทุกครั้งก็เสียเปรียบทุกที
นางได้แต่ยิ้ม นางจะเอาเงินที่ไหนมาซื้อทองหนักครั้งละเป็นบาท หรือหลายๆ บาท แค่ซื้อแหวน ซื้อสร้อย ครั้งละสลึง นางยังซื้อเข้าจำนำออกชุลมุนพัลวัน

2.
นางทำงานโรงงานของนางไป อดออมเงินพอจะซื้อทองอีกสลึง นางก็ไปซื้อ เงินขาดมือเมื่อไรก็เอาไปขายหรือจำนำ อยากได้เงินมากๆ เมื่อไหร่ก็ซื้อล็อตเตอรี่เพิ่มอีกใบ 2 ใบ
แต่นางก็ไม่เคยถูกหวยรางวัลใหญ่  สักที จึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาอดออมเงินไว้ซื้อทองทีละสลึงต่อไป และผู้จัดการก็มักจะเตือนนางว่า อย่าโง่ซื้อทองเส้นเล็กๆ ซื้อเข้าขายออกให้ขาดทุนตัวเอง
นางรู้ว่า ซื้อทองเข้าสักสลึง หรือเอาทองเส้นเดิมไปขายออก นางล้วนแต่ขาดทุน
นางรู้ว่า นางขาดทุนค่ากำเหน็จกับทองเส้นละสลึงทุกเส้น
นางรู้ว่า คนจนต้องขาดทุน เมื่อซื้อขายทองกับคนรวยเสมอไป
ขายแรงงาน ทำงานที่โรงงาน นางก็ได้รายรับน้อย
ขายทอง ซื้อทอง นางก็ต้องจ่ายทั้งค่ากำเหน็จและค่ากำไรให้กับร้านทอง
ซื้อหวยใต้ดิน ซื้อล็อตเตอรี่ ก็ได้แต่ซื้อความหวัง
นางรู้ว่า นางอยู่ในสังคมที่ค่ารถเมล์ ค่าเช่าบ้านแพงมาก เมื่อเทียบกับรายรับของนาง
นางรู้ว่า แม้จะขอความเห็นใจ สังคมที่นางอยู่ก็ไม่มีความเห็นใจให้
นางจึงดิ้นรนไปตามวิธีของนาง นางจึงทำในสิ่งที่นางคิดว่าตนพอทำได้

3.
นางซื้อทองได้อีกสลึง นางอดออมซื้อทองครั้งละสลึง โดยไม่ขายได้หลายเส้นแล้ว เงินเดือนออกงวดต่อไป นางจะเอาทองเส้นเล็กๆ นั้นไปแลกเป็นทองน้ำหนัก 1 บาทเสียที
นางรู้ กว่าจะได้ทองเส้นละบาทนี้มา นางขาดทุนค่ากำเหน็จและค่ากำไรให้ร้านทองไปเยอะ
แต่นี่ก็เป็นเพียงวิธีเดียวที่นางจะได้ทองน้ำหนัก 1 บาท มาไว้ครอบครอง
นางรู้ว่า คนจนเสียเปรียบเสมอในสังคมนี้

4.
พอซื้อทองเส้นละ 1 บาทได้ นางก็เก็บซ่อนเอาไว้อย่างดี แล้วเริ่มต้นกับทองเส้นละสลึงใหม่
นางซื้อเข้าทีละสลึง ค่อยๆ เก็บรวบรวมแล้วไปเปลี่ยนเป็นทองหนัก 1 บาทเส้นใหม่
จากวัยสาว วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว วันหนึ่งบริษัทคงโละคนงานวัยนางออกแน่ นางรู้ สังคมเช่นนี้ไม่มีความเมตตาปราณีต่อคนระดับนางแน่ๆ
นางเก็บสะสมสร้อยทองได้หนักหลายบาทแล้ว ไม่นานนางจะลาออกจากงานมาเป็นแม่ค้าขายข้าวแกง
นางจะเข็นรถเข็นกลับมาขายข้าวให้คนงานโรงงานที่นางเคยอยู่ และนางตั้งใจจะตักข้าวให้พูนๆ จาน เพื่อให้เพื่อนคนงานที่เป็นเช่นเดียวกับนางได้กินจนอิ่ม
นางรู้ว่า นางคงเป็นเพียงแม่ค้าโง่ๆ คนหนึ่ง แต่นางก็ตั้งใจจะเป็นแม่ค้าโง่ๆ ขี้สงสารคนนั้น
นางเคยขาดทุนกับการซื้อขายทองไปแล้วไม่น้อย และนางตั้งใจว่า จะเอากำไรแต่น้อยในการขายข้าวแกงให้เพื่อนคนจนด้วยกัน 

เรืองรอง รุ่งรัศมี
5/2006


ตีพิมพ์ครั้งแรกในคอลัมน์ "สายลมบูรพา" กรุงเทพธุรกิจ (กายใจ) วันอาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคม 2006

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น