ค้นหาบทความ

วันอังคารที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556

มือกระบี่ อีปิง



นี่คือกระบี่ที่ไม่เหมือนกับกระบี่ทั่วไป

แผ่นไม้ไผ่สองแผ่นที่ยังสามารถมองเห็นปล้องไผ่ผูกรัดแถบผ้าไหม ด้ามกระบี่เป็นเขาวัวอันหนึ่ง แขวนอยู่เฉียงๆ ที่เอวของเขา เขามีอายุราวสามสี่สิบปี สวมชุดยาวสีเขียวที่จับเต็มไปด้วยคราบฝุ่นมัน ทั้งยังมองเห็นได้ถึงรูโหว่ขาดจากการเดินทางไกล กระบี่อันนี้ไม่ว่าจะแขวนอยู่บนร่างของใคร ก็ล้วนแต่แลดูประหลาดและชวนขัน มีเพียงแขวนอยู่บนร่างของเขาเท่านั้นที่พลันเพิ่มเติมความรู้สึกลึกลับและห้าวหาญขึ้นอีกมากมาย
คนกินอาหารอยู่ในร้านเหล้ามีไม่มาก ชิดมุมห้องเป็นคนแก่ที่เดิมอยู่คนเดียว ขณะนี้ได้ฟุบหลับกับโต๊ะ มีคู่รักหนุ่มสาวคู่หนึ่ง ฝ่ายชายคมคายสุภาพ ฝ่ายหญิงงดงาม กำลังกระซิบกระซาบเสียงเบา ยามที่ดวงตาทั้งสี่ดวงประสบประสานกันนั้นเปี่ยมด้วยความรู้สึก มือกระบี่วัยกลางคน หันหน้าไปทางแม่น้ำ โคลงศีรษะไปมา งอนิ้วเคาะกับโต๊ะ ราวกับว่ากำลังท่องบ่นบทกวี

ในเวลานั้นเอง คนของสำนักเจ็ดดาวก็ถลันเข้ามา
ที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ของสำนักเจ็ดดาว ในสำนักเจ็ดดาวนั้นแม้กระทั่งยุงที่บินออกมาก็ยังสามารถกัดคนให้ตายได้ นับประสาอะไรกับที่โดดเข้ามานั้น คือชายร่างกายล่ำสันสามคน
พอพวกเขาผ่านประตูเข้ามา ความเงียบสงบของร้านสุราก็ราวกับโดนทุ่มด้วยหินก้อนใหญ่... โลกนี้ตั้งแต่ได้มีมนุษย์เป็นต้นมา คนจำพวกที่สถาปนาตนเองเป็นพี่ใหญ่ คนประเภทที่เป็นแขกที่มาทีหลังแต่ทำตัวเป็นเจ้าของสถานที่ มีไม่เคยขาดเลย

มีเพียงสุราย่อมไม่เพียงพอ สุราและโลกีย์เป็นพี่น้องสนิทคู่หนึ่ง ดังนั้น พวกเขาจึงไปหาคู่รักคู่นั้น ชายร่างสูงใหญ่คนหนึ่งของพรรคเจ็ดดาว ก้าวเดินเชื่องช้ามาถึงข้างกายหญิงสาว ยิ้มอย่างชั่วร้าย พูดว่า น้องสาว มาดื่มเป็นเพื่อนพี่สักสองจอก
ฝ่ายชายนั้นร่างสั่นเทิ้มเสียตั้งนานแล้ว ยามนี้ยิ่งสั่นรุนแรงยิ่งกว่าเก่า เขาร้องด้วยความกลัวว่า พวกท่าน... ต้องการ... จะทำอะไร...คำพูดยังพูดไม่จบ ร่างได้ไหลลงไปกองบนพื้นเสียแล้ว
สามคนหัวร่อฮาฮา ชายร่างสูงใหญ่ยื่นมือที่ครึ้มไปด้วยเส้นขน กำลังจะคว้าจับไปทางหญิงสาว พลันได้ยินเสียงคนคนหนึ่งถอนใจยาว 
เฮ้อ... คนชั่วในโลกนี้ทำไมจึงฆ่าไม่หมดสิ้นกันหนอ?”

สามคนหันกลับมามองโดยพลัน พบเพียงมือกระบี่วัยกลางคนโคลงศีรษะหันหน้าไปทางแม่น้ำ พูดกับตนเอง คนร่างสูงใหญ่พ่นลม ฟู่ออกมา ชักดาบออกจากข้างเอวเตรียมจะโถมตัวข้ามไป แต่ถูกชายร่างเตี้ยข้างกายดึงไว้เบาๆ กวาดสายตาไปที่ข้างเอวของมือกระบี่วัยกลางคนคราหนึ่ง คนร่างสูงใหญ่จึงได้มองเห็นกระบี่ประหลาดเล่มนั้น
ชายอ้วนอีกคนประคองหมัดระหว่างอก พูดว่า ไม่ทราบว่ามิตรสหายท่านมีแซ่อันสูงส่งนามอันยิ่งใหญ่ว่ากระไร?
มือกระบี่วัยกลางคนจ้องมองคนอ้วนแวบหนึ่ง ร้องตวาดว่า ผู้ใดเป็นมิตรสหายของเจ้า? พวกเจ้าคู่ควรแก่การเป็นเพื่อนของข้าหรือ?”
ชายร่างสูงใหญ่ทำท่าจะพุ่งไปข้างหน้าอีก แต่ถูกคนตัวเตี้ยดึงไว้ ชายร่างเตี้ยพูดเสียงเย็นชา มาทำกำเริบเสิบสานในพื้นที่ของสำนักเจ็ดดาว กำลังขวัญของท่านกล้าแข็งเกินไปเสียแล้ว ถ้าท่านกล้าจริง ก็จงทิ้งชื่อเอาไว้ให้ผู้อาวุโสเจ้าสำนักของเราฟังดูสักหน่อย
มือกระบี่วัยกลางคนรินสุราจอกหนึ่ง ดื่มช้า จนหมดสิ้น จากนั้นหันศีรษะไปทางนอกหน้าต่าง ปากก็ร้องขานว่า “... หนึ่งหัวร่อเย้ยฟ้า กระบี่สะท้านวิญญาณหรือว่าข้าน่าเกรงกลัวถึงเพียงนี้จริงๆ ?”
ชายทั้งสามพอได้ยิน อดที่จะรู้สึกสะท้านไม่ได้ คนร่างสูงใหญ่พูดอึกอักว่า ท่าน...ก็คือ ไป๋... ไป๋... ไป๋...เซี่ยวเทียน...ท่านอาวุโสไป๋?”
มือกระบี่วัยกลางคนไม่ไปสนใจเขาอีก กลับขับขานออกมาว่า 
“... ตางามวาวใสร่วมชมปลายขอบฟ้า เมฆเลื่อมสียามพลบ กระเรียนโดดเดี่ยวร่วมร่องลอยช่างเป็นวรรคที่ยอดเยี่ยม เป็นวรรคกวีที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ! ควรจะปรับดื่มอีกจอก!
พูดจบ จะรินสุราอีก แต่กลับพบว่าเหยือกสุราได้ถูกสตรีงามถือไว้ รินสุราให้แก่เขาหนึ่งจอก พร้อมกับกล่าวขอบคุณอยู่ไม่หยุด และชายสามคนจากไปไร้ร่องรอยแล้ว

เวลานี้ พลันได้ยินมีคนพูดขึ้นอีก เขาคือไป๋เซี่ยวเทียนถ้าเช่นนั้นข้าจะคือใคร? ข้าคือผู้ใดหนอ? ดี แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่รู้ว่าเป็นผู้ใด ควรจะปรับดื่มสุรา!” มือกระบี่วัยกลางคนมองดูพบว่าชายชราที่มุมผนัง บัดนี้ตื่นแล้ว
มือกระบี่วัยกลางคนรีบเดินไปที่เบื้องหน้าของผู้อาวุโสกว่า ค้อมกายคารวะครั้งหนึ่ง ผู้เฒ่ายื่นมือออกมาประคองได้ยินเสียงเปรี๊ยะ เปรี๊ยะ ระลอกหนึ่ง ใบหน้าของมือกระบี่วัยกลางคนพลันซีดขาว ยืนนิ่งอยู่ตรงที่เดิม แขนสองข้างตกห้อย เห็นได้ชัดว่ากระดูกไดหลุดจากข้อต่อไปแล้ว ชายชรากลับทดสอบวิชาฝีมือของเขา ชายชราผู้นี้คือไป๋เซี่ยวเทียน เขาฟังมาว่ามีคนแอบอ้างชื่อของเขาท่องไปในยุทธจักร จึงออกติดตามสืบหา
ชายชราเห็นดังนั้น มือทั้งคู่ลูบผ่านแขนสองข้างของมือกระบี่วัยกลาง มีเสียงดังเปรี๊ยะ เปรี๊ยะ อีกระลอกหนึ่ง แขนสองข้างของมือกระบี่วัยกลางคนก็กลายเป็นปกติเหมือนตอนแรก

ชายชราพูดด้วยความประหลาดใจ ที่แท้เจ้าไม่มีวิทยายุทธ์ ทำไมจึงกล้าแอบอ้างเป็นคนในยุทธจักร?”
มือกระบี่วัยกลางคนยอมรับด้วยอาการสงบว่า ได้แต่แค้นใจว่าเรื่องไม่เป็นธรรมในโลกนี้มีมากมายเกินไป ผู้น้อยอายุมากแล้ว ขอเป็นศิษย์สำนักใดก็ไร้อาจารย์ยอมรับ จึงได้แต่เพียงวางแผนกระทำเช่นนี้
ชายชราผงกศีรษะน้อยๆ พูดว่า หงำเหงอะเฒ่าเราจะสอนท่านสักไม่กี่กระบวนเพลง ท่านยินดีจะเรียนหรือไม่?”
มือกระบี่วัยกลางคนคุกเขาโขกศีรษะกับพื้นในทันที พูดว่า ขอบคุณอาจารย์ที่ชี้แนะ!
ชายชราพูดว่า ข้าขอชมดูกระบี่ของเจ้าสักหน่อย

มือกระบี่วัยกลางคนยื่นมือขวาออกมา กุมกระชับดาบเขาวัวเอาไว้ ดึงออกมาข้างนอก ชายชราตะลึงพรึงเพลิดแล้วใต้ด้ามเขาวัวว่างเปล่า ไม่มีสิ่งใด ไม่มีแม้กระทั่งตัวกระบี่
ผู้ชราถาม นี่คือกระบี่ของท่าน?”
มือกระบี่วัยกลางคนตอบอย่างเปิดเผยว่า นี่คือกระบี่ของข้า
ถ้าเช่นนั้น คมกระบี่เล่า!
คมกระบี่อยู่ในใจข้า
 ผู้ชรามองดูเขา ผงกศีรษะช้าๆ พูดอย่างเคร่งขรึมว่า ท่านคือมือกระบี่ที่แท้จริงคนแรก ที่ข้าพบในชีวิตของข้า


 เรืองรอง รุ่งรัศมี แปล

พิมพ์รวมเล่มครั้งแรกในหนังสือ มือสังหาร สำนักพิมพ์ openbooks ตุลาคม 2551

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น