ค้นหาบทความ

วันพุธที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ระหว่างดวงดาว


หมู่ดาวริบหรี่อยู่บนท้องฟ้า หากเราบินสูงขึ้นไปบนฟ้าในคืนเช่นนี้ ดวงดาวก็ยังลอยอยู่ห่างไกล วอมแวมริบหรี่อยู่ในสายตา
ถ้ามนุษย์ลอยตัวบนฟ้าอย่างนก หรืออย่างนักบินที่เหินบินอยู่ลิบๆ ท่ามกลางฟ้ากว้าง มนุษย์จะรู้ถึงความเล็กน้อยแห่งชีวิตของเขาบ้างไหม และแสงวอมแวมริบหรี่บนฟ้า กับแสงวอมแวมริบหรี่บนดิน จะเป็นดวงดาวที่โยงสายใยสัมพันธ์ชีวิตของเขาให้งดงามเพียงใด
เมื่อหัวใจอ่อนโยนบินสูงอยู่ใต้แผ่นฟ้า อยู่เหนือแผ่นดิน ดวงดาวอบอุ่นอยู่ทั้งเบื้องบนและที่เบื้องล่าง ส่องแสงสว่างเรื่อเรืองงดงาม
ดวงดาวนั้นดั่งมีสายใยผูกพัน ดั่งเชือกโยงเรือที่ทอดจากฟากสวรรค์ นำพามนุษย์ไปสู่จุดหมายของการเดินทางที่ใดที่หนึ่ง ดวงดาววอมแวมบนพื้นโลกนั้น คือกองไฟให้ความอบอุ่นข้างกระโจมเปลี่ยวในคืนเหน็บหนาว เป็นที่ซึ่งอาหารร้อนกรุ่นและความเอื้ออาทรรินหลั่งเจือจานให้แก่ชีวิต
แสงริบหรี่ๆ อาจเป็นการกะพริบตาหยอกเย้าของดาวอ่อนโยน อาจเป็นเปลวปะทุในกองไฟ ขณะผู้คนรุ่นหนึ่งบอกเล่านิทาน ตำนานชีวิต สืบทอดต่อคนรุ่นหลัง รุ่นแล้วรุ่นเล่า รุ่นแล้วรุ่นเล่า

แหงนมองบนฟ้าคืนใด ดวงดาวก็เยี่ยมทักทายยามนั้น
และหากบินสูงสู่ฟ้า ดวงดาวที่บนแผ่นดินก็ยิ้มทักทายเฉกกัน
บนฟ้าสูงนั้น ดวงดาวนำสู่จุดหมายเมื่อเราเหินบิน
บนฟ้าสูงนั้น มนุษย์กลายเป็นหิ่งห้อยน้อยนิดของจักรวาล
ยิ่งบินสูงขึ้นไป มนุษย์ก็จะยิ่งมองเห็นโลกได้ชัดเจนขึ้น โลกเป็นเพียงแต่ดาวดวงหนึ่ง เส้นรุ้งเส้นแวงเป็นแต่เพียงนามธรรมสมมติ เขตแดนประเทศปลาสนาการไป ยิ่งบินขึ้นสูงก็จะยิ่งเห็นโลกทั้งโลกเป็นองค์รวมไป และโลกทั้งโลกเป็นเพียงองค์ประกอบเล็กน้อยของจักรวาล

ไยจึงยังแบ่งแยกสิ่งที่เล็กน้อยนักนี้ ให้เป็นชิ้นเป็นเสียง ส่วน เสี้ยว ให้เล็กไปอีก
ไยจึงต้องแบ่งฝ่าย แบ่งสี แบ่งเป็นประเทศ เป็นเมือง เป็นโฉนด เป็นแปลงลงอีก
แล้วโลกทั้งใบ แล้วดาวทั้งดวง จะเหลือสิ่งใด
ดวงดาวมิได้มีไว้เพื่อเป็นสมบัติซื้อขาย หากแต่มีไว้เพื่อการผูกพันรักใคร่ หัวใจเช่นไรหรือ จึงตัดแบ่งมันดั่งชิ้นขนมเพื่อการซื้อขายครอบครอง
สีผิว ชาติพันธุ์ เป็นแต่เพียงขอบเขตจำกัด รึงรัดมนุษย์ให้หนักอึ้ง จนมิอาจบินสูงขึ้นไป การซื้อขายยึดครองเป็นแต่เพียงสายโซ่พันธนาการ
ตระหนักในความเล็กน้อย หัวใจจึงจะเติบโต มนุษย์จึงมีนิยามความหมายงดงาม และความเอื้ออาทรจึงจะหลั่งรินไปดั่งสายน้ำให้ความฉ่ำชื่นต่อสรรพสิ่ง ไม่เห็นความสำคัญของตนจนเกินไป จึงจะสามารถรับรู้คุณค่าความหมายของสรรพสิ่ง สรรพชีวิต

เมื่อบินไปบนฟ้า เราผูกสัมพันธ์กับผืนแผ่นดินกับโลกอย่างที่เป็นจริง ว่าเป็นแหล่งที่พำนักพักพิง เป็น “บ้าน” ที่เราจะคืนไปสู่ภายหลังการร่อนเร่พเนจรเหนื่อยล้า เป็นสถานที่ที่มีอาหาร มีความอบอุ่น ความรัก และความเอื้ออาทร เป็นสายใยสุกสกาว ทอแสงงดงาม รอคอยการกลับคืนของทุกชีวิต
รู้ในความเล็กน้อย รู้ในขอบเขตจำกัด ภาระความรับผิดชอบ จึงควรถูกให้ความหมาย คุณค่าจึงถูกสร้างสรรค์ขึ้นมา
ไม่ใช่ความเล็กน้อยที่มีขอบเขตจำกัดหรอก ที่ทำมนุษย์เหนื่อยล้าอ่อนแอ เพราะรู้ในขอบเขตจำกัดเช่นนี้ เราจึงตระหนักรู้ในพันธะหน้าที่ชีวิต เพราะรู้ว่าการครอบครองเป็นแต่สิ่งชั่วคราวอันไม่จีรัง จึงควรรู้ถึงความสุขของความอิ่ม ความมี ความได้ ความพอ

ทุกสิ่งทุกอย่างเรามีอยู่แล้ว เป็นทรัพย์ล้ำค่า เพียงแค่ผูกความสัมพันธ์
ร่มเงา อากาศ สายธาร หมู่ดาว เคหาสน์บ้านเรือน หน้าที่การงาน ล้วนแต่งดงามเมื่อผูกสายสัมพันธ์
มนุษย์สัมพันธ์ต่อเพื่อนมนุษย์ ต่องานที่ทำ ต่อวิถีแห่งการดำรงอยู่ ต่อโลกทั้งโลก ต่อร่มเงาไม้ ดอกไม้เล็กๆ นกน้อย ผีเสื้อ กรวด หิน ดิน ทราย สายใยสัมพันธ์ถักทอเป็นผืนคลุมห่มโลกได้ทั้งโลก อบอุ่นในยามเหน็บหนาว เย็นชื้นในยามร้อนผ่าว งดงามดั่งสายลมเย็น โชยพัดมิได้เพื่อและเพราะสิ่งใด เพียงแต่โชยพัดให้ความชื่นเย็น เบิกบาน เพียงแต่ทอแสงให้ความสว่าง เพียงแต่เปล่งประกายงามอยู่เช่นนั้น ให้โลกเรื่อเรือง
มิต้องมีความกล้าหาญยิ่งใหญ่แต่ประการใด ไม่ต้องรอคอยจังหวะเวลาเพื่อจะกระทำในสิ่งที่สะเทือนแผ่นฟ้าสะท้านแผ่นดินแต่อย่างไรเลย เพียงแต่หายใจออกมาด้วยความดีงาม อ่อนโยน ให้กลายเป็นความสัมพันธ์ที่มีต่อโลกต่อสรรพสิ่งเท่านั้น เป็นเรื่องเล็กๆ เป็นสิ่งง่ายๆ ไม่ต้องรู้สึกว่ามันสลักสำคัญ ไม่ต้องอวดอ้างว่ามันสูงส่ง เพียงแต่สัมพันธ์ต่อสรรพสิ่งด้วยความปกติธรรมดา มิได้รู้สึกภาคภูมิ มิได้รู้สึกต้อยต่ำ สัมพันธ์ต่อโลก ต่อดาวดวงนี้อย่างธรรมดาสามัญที่สุดก็พอ

บินไประหว่างดวงดาวกันไหม บินไปให้เห็นความงามของดาวริบหรี่ที่อยู่บนฟ้าและบนผืนดิน
เรามิได้บินไปเพื่อแสวงหาวัตถุสมบัติใด เพียงแต่เหินบินขึ้นไปเพื่อให้เห็นแสงวอมแวมงดงาม ให้ดวงจิตรับรู้ถึงความเรืองรองพร่างพราย
เพียงแต่เหินบินขึ้นไป ชื่นชมความงามของดาวบนฟ้าและที่ผืนดิน
บินไประหว่างดวงดาวกันไหม ไปอาบหัวใจของเราให้เป็นสีทอง


เรืองรอง  รุ่งรัศมี


พิมพ์ครั้งแรกในคอลัมน์ กิ่งไผ่และดวงโคม ผู้จัดการรายวัน 17-18 ธันวาคม พ.ศ.2537

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น