ค้นหาบทความ

วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เรียน “เล่น”



            เรารู้โลกและชีวิต ได้อย่างแทงทะลุตั้งแต่เมื่อใดหรือ ? ไยชีวิตของเราจึงห่างเหินจากการ “เรียน” เมื่อก้าวพ้นห้องเรียนออกมา
“เรียนจบ” แล้ว “จบการเรียนรู้” เป็นปรากฏการณ์ที่พบเห็นได้จากชีวิตจำนวนมาก
ก็เรียนมาตั้งเยอะแล้ว จะเรียนอะไรกันอีกนักหนา...
เรียนอะไรหรือ ?
เรียนการเล่น ! เรียนการใช้ชีวิต ! เรียนที่จะ “อยู่เย็นเป็นสุข”
เหมือนพูดเล่น แต่การ “เล่น” นั้นต้องเรียนจริงๆ เป็นการเรียนที่แปลกออกไปจากในวัยเรียนที่ยังมีครูสอนเป็นรายวิชาในห้องเรียน
มองเห็นคนที่เลิก “เล่น” แล้วจำนวนเท่าใด ? มองเห็นคนที่ “เล่น” ไม่เป็น เป็นจำนวนเท่าใด ? มองเห็นคนที่ “อยู่ไม่เป็น” เป็นจำนวนเท่าใด ? มองเห็นคนที่ “ว่าง” ไม่เป็น เป็นจำนวนเท่าใด ? ฯลฯ
นอกจากการงาน และภาระความรับผิดชอบ “ชีวิต” มีเหลี่ยมมุมและมิติอื่นๆ อีก
เล่นไม่เป็น แล้วจะใช้ชีวิตอย่างไร ?
ไปทำงาน กลับบ้าน ไปเฮฮา เปิดโทรทัศน์ ไปซื้อของ นอน... แล้วมีอะไรอีก ? ชีวิตอย่างนี้ดีอยู่หรือ ? ดีอยู่จริงหรือ ?
เล่นไม่เป็นแล้ว จะเล่นกับชีวิตเป็นหรือ ?
ไม่เล่นกับชีวิตบ้าง แล้วจะจริงกับชีวิตได้ไหวหรือ ? จะ “จริง” กับชีวิตได้จริงหรือ ?
“ทีเล่นทีจริง” นั้น เป็นศิลปะการใช้ชีวิตที่ใครกี่คนจะใช้เป็นโดย “ไม่เรียน”
“เล่น” เพื่อให้ปล่อยวางความจริงจังลงบ้าง “เล่น” เพื่อให้อยู่ว่างได้ “เล่น” เพื่อให้ใจมันสบาย อารมณ์มันโปร่ง “เล่น” เพื่อให้ความยึดมั่นถือมั่นมันจางลงบ้าง
ก็ “เล่น” อยู่นี่ จะจริงจังอะไรนักหนา
แล้วแน่ใจตัวเองหรือว่า “เล่น” เป็น โดยธรรมชาติ โดยไม่ต้องเรียน
ตอนอายุ 40, 50, 60, 70, 80, 90,… เราปลูกต้นไม้เป็นหรือ ถ้าไม่เคยเรียนรู้มาก่อน ในวัยเท่านั้นเราไปซื้อหนังสือมาอ่านเป็นหรือ ถ้าหากก่อนหน้านั้นเราไม่รู้จักร้านหนังสือ แล้วแน่ใจหรือว่าซื้อหนังสือมาแล้วจะอ่านมันได้อย่างไม่ทุกข์ทรมาน
แน่ใจหรือว่าคุณจะฟังเพลงได้อย่างดื่มด่ำและผ่อนคลายในยามอายุมากเข้า หากว่าคุณไม่เคยลองเรียนรู้การฟังเพลง แล้วแน่ใจหรือว่ารายการเพลงในวิทยุหรือโทรทัศน์ จะเป็นรายการที่คุณฟังแล้วปลอดโปร่งใจ ผ่อนคลายอารมณ์
คุณก็ปิดวิทยุ ปิดโทรทัศน์เสีย แล้วกลายเป็นคนแก่ขี้บ่น หรือกลายเป็นคนน่ารำคาญ คนไม่น่าเข้าใกล้ ที่อยู่ไปอย่างเฉาๆ เพราะชีวิตของคุณแห้งแล้งและว่างเปล่าเหลือเกิน
คุณเริ่มเรียนรู้ที่จะไม่ให้ชีวิตมันแห้งแล้ง และว่างเปล่าบ้างหรือไม่ ? คุณแน่ใจหรือว่าคุณไม่ต้องเรียนรู้ การเล่นใดๆ แล้วสามารถบ่มเพาะ “นิสัย” ที่จะทำให้ตนเองอยู่เย็นเป็นสุขได้ และผู้อื่นไม่ร้อนรุ่มรำคาญ ยามอยู่ใกล้คุณ
“เรียนจบแล้ว” คุณเรียนรู้การใช้ชีวิตอีกหลายสิบปีของคุณหรือเปล่า ?
“เล่น” เป็นศิลปะ ต้องเรียนและฝึกฝน ไม่ใช่เรื่องที่ใครๆ ก็ทำได้หรอกคุณ


เรืองรอง  รุ่งรัศมี


พิมพ์ครั้งแรกในหนังสือ ภาพของฉัน ฝันของใคร สำนักพิมพ์ไปทำไม พ.ศ.2548


2 ความคิดเห็น:

  1. เป็นเรื่องที่ผมคิดว่า คนเรา ถ้าไม่มีใครสอน คือตาย อย่างเดียว ผมเขียนแบบนี้ไม่ได้ แต่ใจผม ชอบการเรียนครับ ทุกวันนี้ที่ได้มาก็ได้จากการเรียนนอกห้องครับ

    ตอบลบ
  2. คนจำนวนหนึ่ง พอออกจากสถาบันการศึกษาแล้วก็เข้าใจว่าทุกอย่างจบแล้ว แต่บางที คนเราก็เบลอๆ ว่า "เรียนจบ" หรือ"จบเห่"กันแน่ คนชอบคิดว่า"การเรียน"อยู่ใน"ชั้นเรียนที่เป็นแบบแผน" แต่ไม่ได้อยู่ใน "ชีวิต" ชีวิตก็เลย "จบเห่" มีแต่เดินถอยหลังไปตามวันเวลา
    ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นครับ

    ตอบลบ