ค้นหาบทความ

วันพุธที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2556

หยิวจันตลกหลวง



หยิวจันเป็นนักแสดงในสมัยราชวงศ์ฉิน เป็นคนที่มีรูปร่างเตี้ย เขามีความสามารถพิเศษในการเล่าเรื่องตลก แต่ว่าเรื่องที่เขาเล่ามักเต็มไปด้วยเหตุผล
วันหนึ่ง ขณะที่ฝนกำลังตกแรง ฉินสื่อฮว๋างจัดให้มีงานเลี้ยงรื่นเริงขึ้นในราชวัง ในงานเลี้ยงมีการแสดง อาหาร และสุรา เหล่าทหารรักษาการณ์ยืนรักษาความสงบอยู่ที่แท่นบันได ถูกสายลมสายฝนซัดกระหน่ำจนตัวเปียกโชกและหนาวสั่น หยิวจันมองเห็นลักษณะอาการเช่นนั้นของพวกเขา ก็เกิดความเห็นใจ จึงแอบไปถามพวกเขาว่า
“พวกท่านอยากจะพักบ้างไหม ?
ทหารรักษาการณ์พากันตอบว่า
“ถ้าหากได้พักก็ดีนะซี”
หยิวจันจึงพูดว่า
“ถ้าเช่นนั้น อีกสักครู่ถ้าข้าร้องขึ้น พวกท่านจงร้องตอบข้าทันที”

ผ่านไปครู่หนึ่ง ขณะที่ขุนนางอำมาตย์กำลังคารวะสุรา เปล่งเสียงร้องอวยพรต่อฉินสื่อฮว๋าง หยิวจันถือโอกาสนั้นไปยืนร้องตะโกนอยู่บนระเบียงว่า
“ทหารรักษาการณ์ทั้งหลาย !
ทหารรักษาการณ์ขานรับโดยพร้อมเพรียงกันว่า
“อยู่ครับ”
หยิวจันพูดว่า
พวกท่านแม้จะรูปร่างใหญ่โต แต่มีประโยชน์อะไรเล่า ? พวกท่านได้แต่ยืนตากฝนอยู่ข้างนอก ข้านั้นแม้จะเป็นคนตัวเล็กเตี้ย แต่กลับเสพสุขอยู่ในห้องโถงได้
ฉินสื่อฮว๋างได้ยินคำพูดชวนขันเช่นนี้ ก็รู้สึกรื่นเริง จึงมีบัญชาการให้ทหารรักษาการณ์ จำนวนครึ่งหนึ่งยืนรักษาการณ์ อีกครั้งหนึ่งสลับกันไปพักผ่อน

อีกคราวหนึ่ง ฉินสื่อฮว๋างคิดจะขยายสนามล่าสัตว์ของตน ซึ่งจะกินเนื้อที่ในรัศมีถึงหลายร้อยลี้ หยิวจันพูดกับฉินสื่อฮว๋างว่า
ยอดเยี่ยมอะไรปานนั้น ! เราเลี้ยงนกเลี้ยงสัตว์ไว้ในนั้นให้มากๆ ถ้ามีศัตรูมารุกรานก็ให้กวางพวกนั้นใช้เขาที่สวยงามของมันไปชนกับข้าศึก ทำอย่างนี้ศัตรูก็คงจะไม่กล้ามาอีกกระมัง ?
ได้ฟังคำหยอกล้อของเขา ฉินสื่อฮว๋างนำไปคิด ในที่สุดก็ยกเลิกความคิดที่จะขยายสนามล่าสัตว์

หลังจากที่ฉินสื่อฮว๋างถึงแก่กรรม ฉินเอ้อเส้อ บุตรชายของฉินสื่อฮว๋างขึ้นเป็นกษัตริย์ และชอบก่อกรรมทำเข็ญมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก เขาคิดจะทาสีกำแพงเมืองทั้งหมดใหม่ หยิวจันพูดกับเขาว่า
ยอดเยี่ยมอะไรปานนั้น ถ้าท่านไม่พูดเรื่องนี้ขึ้นมา ความจริงข้าก็คิดจะเสนอให้ท่านทำเช่นนี้อยู่แล้วเหมือนกัน ทาสีกำแพงเมืองเสียใหม่ แม้ว่าจะต้องสูญเสียทรัพย์สินเงินทองของประชาชน ต้องใช้กำลังคน และสร้างความทุกข์ยากแก่พวกเขาเล็กๆ น้อยๆ แต่นั่นช่างเป็นเรื่องที่ดีอะไรปานนั้น ! ทาสีกำแพงเมืองให้เงางาม พอข้าศึกมาตีก็จะปีนขึ้นมาไม่ได้ สีเราก็มีมากมาย ช่างทาสีรึ จับเอามาสิ เพียงแต่ต้องหาห้องขนาดใหญ่ให้ได้หลังหนึ่งไว้ เอากำแพงเมืองที่ทาสีแล้วมาอบให้แห้งในห้องนั้นที่เป็นเรื่องยุ่งยากหน่อยเท่านั้น
คำพูดเหล่านี้ทำให้ฉินเอ้อเส้อหัวเราะ แล้วใคร่ครวญไตร่ตรองคำพูดของหยิวจันโดยละเอียดใหม่ ในที่สุดก็ไม่ได้สั่งการให้ทาสีกำแพงเมือง


เรืองรอง  รุ่งรัศมี แปลและเรียบเรียง


พิมพ์รวมเล่มครั้งแรกใน เปิดบันทึกประวัติศาสตร์ อ่านกลยุทธ สำนักพิมพ์แสงดาว พ.ศ.2534 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น