ค้นหาบทความ

วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ดอกไม้กับความฝัน


อุโมงค์ข้ามถนนไม่สว่างนัก แต่ก็ไม่ถึงกับคับมือ บรรยากาศเช่นนี้ยิ่งทำให้เสียงเพลงที่ได้ยินมาให้อารมณ์เป็นพิเศษ
ซำเหมา ไม่เอาไหน และซำเหมา เอาสนุกลากกระเป๋าใบหนักเดินไปช้าๆ
“...ดอกไม้ หญิงสาว
ไหวเอนในฝุ่นธุลีแดง
ดอกไม้ หญิงสาว
โยกไหวแผ่วเบาไปตามสายลม
ได้แต่หวังว่า
จะมีมืออันอ่อนโยนคู่หนึ่ง
สามารถมาปลอบประโลม
ความเปลี่ยวเหงาในใจของฉัน...

ซำเหมาทั้งสองหยุดนิ่งอยู่ตรงนั้น ภาพที่พวกเขาเห็นตรงเบื้องหน้าคือนักเพลงหนุ่มสองคน คนเล่นกีตาร์แขนขวาขาดเพียงข้อมือ เขาใช้อะไรบางอย่างรัดปิ๊กกีตาร์ไว้กับข้อมือขวา บรรเลงดนตรีและร้องเพลงอย่างเต็มอารมณ์และเต็มเสียง ข้างๆ เขามีชายอีกคนหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้เข็น ร่างกายมีตั้งแต่เหนือเข่าขึ้นมา เขาเป็นคนค่อนข้างท้วม และกำลังร้องเพลงอย่างเต็มเสียง เต็มอารมณ์ร่วมไปกับนักกีตาร์แขนขวาขาด
“ฉันมีดอกไม้ดอกหนึ่ง
ออกดอกหอมบานอยู่เต็มกิ่งก้าน
ผู้ใดหรือจะมาเสาะหา
ร่องรอยของดอกไม้ด้วยความจริงใจ
ดอกไม้บานอยู่มิช้านาน
โอ...ถึงเวลาเด็ดไปเชยชมก็ควรเด็ด
หญิงสาวเป็นดั่งดอกไม้
ดอกไม้นั้นคลายดั่งความฝัน...

มีคนหยุดฟังเพลงของนักเพลงหนุ่มในอุโมงค์ข้ามถนนนี้จำนวนหนึ่ง ต่างก็นิ่งเงียบ ในกล่องกีตาร์ที่เปิดออกวางไว้ตรงเบื้องหน้านักเพลงทั้งสอง มีเหรียญและธนบัตรอยู่เล็กน้อย
“...ฉันมีดอกไม้ดอกหนึ่ง
เติบโตอยู่ในดวงใจฉัน
มีน้ำใจที่แท้ มีรักที่แท้ โดยไม่มีคนเข้าใจ
หญ้าป่าทั่วทั้งแผ่นดิน
ได้ปกคลุมไปทั้งเนินเขาแล้ว
แต่ชื่นเชยอยู่ผู้เดียว
ช่างน่าร้าวรานใจ...

ซำเหมา เอาสนุกล้วงธนบัตรใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋า เดินไปหย่อนลงตรงกล่องกีตาร์ แล้วกลับมายืนฟังเพลงต่อข้างๆ ซำเหมา ไม่เอาไหน
“...ดอกไม้ หญิงสาว
ไหวเอนในฝุ่นธุลีแดง
ดอกไม้ หญิงสาว
โยกไหวแผ่วเบาไปตามสายลม
ได้แต่เฝ้าหวังว่า
จะมีมืออันอ่อนโยนคู่หนึ่ง
สามารถมาปลอบประโลม
ความเปลี่ยวเหงาในใจของฉัน...
               
รู้จักเพลงนี้ไหม?” ซำเหมา ไม่เอาไหนกระซิบถามซำเหมา เอาสนุกเบาๆ
ไม่รู้จัก...แต่เดี๋ยวจะเข้าไปถาม... ซำเหมา เอาสนุกตอบ
“...ดอกไม้ หญิงสาว
ไหวเอนในฝุ่นธุลีแดง
ดอกไม้ หญิงสาว
ไหวเอนแผ่วเบาไปตามสายลม
ถ้าหากเธอได้กลิ่นหอมของดอกไม้แล้ว
อย่าได้ถามฉันว่าดอกไม้นั้นแดงอร่ามเพื่อใครผู้ใด...
เคยได้มีรักจึงได้รู้ค่าน้ำหนักของน้ำใจรัก
เคยเมามายแล้วจึงรู้ว่าสุรานั้นรสเข้มข้น
ดอกไม้บานแล้วโรยร่วง
ท้ายที่สุดนั้นว่างเปล่า
บุบเพสันนิวาสมิรอใคร
เหมือนดั่งสายลมฤดูใบไม้ผลิมาแล้วก็จากไป
หญิงสาวเหมือนดั่งดอกไม้
ดอกไม้ก็เป็นเช่นเดียวกับความฝัน...

สายกีตาร์สายหนึ่งขาดไปตั้งแต่ช่วงกลางเพลง แต่นักเพลงหนุ่มทั้งสองยังคงขับขานเพลงต่อไป

 เรืองรอง  รุ่งรัศมี
4/2005


พิมพ์ครั้งแรกในคอลัมน์ สายลมในกิ่งหลิว เนชั่นสุดสัปดาห์ ปีที่ 13 ฉบับที่ 673 วันที่ 25 เมษายน 1 พฤษภาคม 2548 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น