ค้นหาบทความ

วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ยอดฝีมือ สวี เส้อ เหวิน

ยอดฝีมือ
สวี เส้อ เหวิน

            พูดถึงยุคสมัยที่ยอดฝีมือในยุทธจักรต่างช่วงชิงความเป็นใหญ่นั้น เด็กหนุ่มหาว (ห้าวหาญ) ใช้กระบวนท่า 24 กระบวนกระบี่เหินฟ้า สร้างชื่อขึ้นในชั่วพริบตาที่ปรากฏตัวครั้งแรก เขามีลักษณะองอาจผึ่งผาย ทั่วทั้งแผ่นดินแทบจะหาคู่ต่อกรไม่ได้
            ปีนั้น ยุทธจักรตั้งเวทีประลองเพื่อคัดเลือกผู้นำยุทธจักร วีรบุรุษผู้กล้าทั่วหล้าต่างพากันมาชุมนุมที่นี่ ภายใต้กระบี่ของหาวไม่มีผู้ใดสู้ได้เกิน 10 เพลง วีรบุรุษอาวุโสและผู้กล้าเลื่องชื่อมากมายยิ่งลับหายสิ้น ยามหาวนั่งครองบัลลังก์ประมุขบู๊ลิ้มนั้น เด็กหนุ่มเจี๋ย (เลิศล้ำ) กระโดดขึ้นไปบนเวทีประลอง ในเวลาที่เหล่าวีรบุรุษผู้กล้าทั้งหนุ่มและแก่ต่างพากันปาดเหงื่อแทนเจี๋ยนั้นเอง กระบี่ของหาวก็ลอยไปบนฟ้าจริงๆ
            หาวประสานมือคารวะ ประกาศว่า ประมุขยุทธจักรจะเป็นผู้อื่นใดมิได้นอกเสียจากตัวเจี๋ย แต่เจี๋ยกลับเดินจากไป จากไปอย่างที่ทำให้ผู้คนอัศจรรย์ใจอย่างยิ่ง จากไปอย่างลึกลับอย่างยิ่ง
            หาวจากไปแล้ว ตอนที่จะจากไป หาวทิ้งคำพูดไว้คำหนึ่งว่า
“อีก 3 ปี ค่อยกลับมาพิสูจน์ผลแพ้ชนะกันใหม่”

            ผ่านไปอีก 3 ปี ถึงเวลาประลองฝีมือคัดเลือกประมุขยุทธจักรอีกครั้ง หาวออกเทียบเชิญต่อเจี๋ย หาวรู้สึกว่าตนมีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมว่าสามารถพิชิตเจี๋ยได้ เป็นชั่วขณะเวลาที่ตั้งใจรอคอยให้มาถึง แต่ทว่า เจี๋ยมิได้มา โดยประเพณีหาวย่อมขึ้นครองบัลลังก์ประมุข เป็นวีรบุรุษผู้กล้าที่หนึ่งแห่งแผ่นดิน แต่ทว่า หาวรู้สึกเสียดายอยู่เล็กน้อย
            หาวคิดหาโอกาสประลองกับเจี๋ยอีกครั้งมาโดยตลอด เขาต้องสามารถเอาชนะเจี๋ยได้แน่ แต่ทว่า ทุกครั้งโอกาสก็ผ่านไปโดยสูญเปล่า ราวกับว่าไม่มีวาสนาจะได้พบกันอีกตลอดกาล

            เจี๋ยไม่ประลองกับหาว ย่อมไม่มีผู้ใดกล้ามาประลองกับเขา เพราะว่าเขาเคยพิชิตวีรบุรุษที่ 1 แห่งแผ่นดินมาก่อน และวีรบุรุษผู้กล้าที่ 1 แห่งแผ่นดินก็ไม่เคยสู้ชนะตัวเขา ทุกครั้งที่ผู้คนร่วมยุทธจักรจะปะทะกันด้วยกำลังอาวุธ ขอเพียงหาวเอ่ยออกมาคำหนึ่งว่า หากใครแน่จริงให้ก้าวออกมา พอเอ่ยเช่นนี้เรื่องทั้งหลายก็มีการยอมกัน

            เวทีประลองคัดเลือกประมุขยุทธจักรครั้งแล้วครั้งเล่า หาวรู้สึกถึงความอ่อนล้า สิ่งที่เขาปรารถนาที่สุดก็คือการประฝีมือกับเจี๋ย เขาจะต้องพิชิตผู้คนทั้งหมดจนสิ้น ไม่อาจละหรือข้ามคนใดคนหนึ่ง แต่เจี๋ยไม่สามารถมาตามกำหนดครั้งแล้วครั้งเล่า เหตุผลนั้นย่อมหนักแน่นน่าเชื่อถืออย่างไร้จุดอ่อน ผู้คนต่างนับถือหาว และยิ่งนับถือเลื่อมใสในตัวเจี๋ย ภาพลักษณ์ของเจี๋ยยิ่งสูงส่งงามพร้อมยิ่งขึ้นในใจ

            ในที่สุด หาวก็ใกล้ถึงวาระความตาย เขาบอกกล่าวต่อศิษย์ว่า
ชีวิตนี้ สิ่งที่เสียดายที่สุดคือ การมิได้ประฝีมือกับเจี๋ยเป็นครั้งที่สอง ประวัติศาสตร์การพ่ายแพ้เพียงครั้งเดียวทำให้เขาเจ็บปวดนานชั่วชีวิต
            เจี๋ยก็ใกล้สู่วาระความตายเช่นกัน เขาบอกต่อศิษย์ว่า
สิ่งปลอบประโลมใจยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตนี้คือ มิได้ประฝีมือกับหาวเป็นครั้งที่สอง การพิชิตวีรบุรุษผู้กล้าที่ 1 แห่งแผ่นดินเพียงครั้งเดียว ทำให้เขาเปล่งรัศมีไปชั่วชีวิต
            เจี๋ยคือวีรบุรุษผู้กล้า เขาเคยสู้ชนะหาว ประวัติศาสตร์ของยุทธจักรบันทึกเอาไว้เช่นนี้

เรืองรอง รุ่งรัศมี 
แปล


พิมพ์รวมเล่มครั้งแรกในหนังสือ มือสังหาร สำนักพิมพ์ openbooks ตุลาคม 2551

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น