ที่แคว้นฉีกว๋อเกิดภัยแล้งเนื่องจากฝนไม่ตกมาเป็นเวลาแรมปี
ทั่วทุกหัวระแหงของฉีกว๋อ ต่างก็ตกอยู่ในความทุกข์ยาก
จิ่งกง กษัตริย์แห่งแคว้นฉีกว๋อ
คิดจะไปบวงสรวงสักการะเทพแห่งภูเขาเพื่อขอฝน
เย่นจื่อซึ่งเป็นอำมาตย์ไจ่เซียงจึงกล่าวว่า
“ไม่ต้องไปหรอก
บวงสรวงเทพแห่งขุนเขาก็ไม่มีประโยชน์
เหล่าก้อนหินบนภูเขานั้นเสมือนเส้นเอ็นและกระดูกของภูเขา
ดินนั้นเป็นเสมือนกล้ามเนื้อของภูเขา
และต้นไม้ใบหญ้าก็เป็นเสมือนขนและเส้นผมของมัน
ฝนมิได้ตกมาเป็นเวลายาวนาน
ขนและเส้นผมของเทพแห่งขุนเขาต่างก็เหี่ยวแห้งตายเสียจนสิ้น
ทั้งกล้ามเนื้อก็ถูกแดดตากเสียจนแห้งเกรียม
เทพแห่งขุนเขาเองนั้นมิได้ปรารถนาให้ฝนตกลงมาเร็วๆ
หรอกหรือ?
ถ้าหากว่าเขาสามารถบันดาลให้ฝนตกลงมาจากฟ้า
ฝนก็คงตกลงมาเสียตั้งนานแล้ว”
จิ่งกงกล่าวว่า
“ไม่ขอเอาจากเทพแห่งขุนเขาก็ช่างเถิด ถ้าเช่นนั้น
ข้าจะไปขอกับเหอปว๋อ เทพแห่งแม่น้ำคงได้กระมัง?”
เย่นจื่อกล่าวว่า
“ก็ไม่ได้อีกนั่นแหละ
น้ำนั้นคืออาณาจักรของเหอปว๋อ
กุ้ง หอย ปู ปลา ก็คือประชาชนของเขา
ฝนไม่ได้ตกมาเป็นเวลาช้านาน
น้ำในแม่น้ำนั่นก็แห้งหายไปเสียหมดแล้ว
นั่นก็เท่ากับว่าอาณาจักรของเหอปว๋อได้สูญเสียไปแล้วเช่นกัน
เหล่าอาณาประชาราษฎร์ของเขา
ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา
ต่างก็กำลังจะแห้งตายอยู่แล้ว
ถ้าหากว่าเหอปว๋อสามารถบันดาลให้ฝนตกได้
ฝนก็คงจะตกลงมาเสียตั้งนานแล้ว
เมื่อเป็นเช่นนี้การไปบวงสรวงสักการะขอเอาจากเขาจะมีประโยชน์อันใดอีกเล่า?”
เมื่อจิ่งกงได้ฟังคำกล่าวเหล่านี้ของเย่นจื่อ
จึงมิได้ไปขอฝนเอาจากเทวดาอีก
เย่น จื่อ ชุน ชิว
(ประมาณ 500 ปี ก่อน ค.ศ.)
เรืองรอง รุ่งรัศมี
แปลและเรียบเรียง
พิมพ์รวมเล่มครั้งแรกในหนังสือ มณีปัญญา ปรัชญานิพนธ์จีนโบราณ
กรกฎาคม พ.ศ.2530
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น