ค้นหาบทความ

วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ดาบเทพยดาไร้เงา อี ปิง


ดาบเทพยดาไร้เงา
อี ปิง

            จอมยุทธ์อู๋ฉิง (ไร้น้ำใจ) ปีนี้อายุ 32 ปี
            จอมยุทธ์อู๋ฉิงไม่มีพ่อแม่ ไม่มีภรรยา และย่อมจะไม่มีลูก
            ญาติสนิทเพียงหนึ่งเดียวของจอมยุทธ์อู๋ฉิงคือกระบี่ของเขา
            จอมยุทธ์อู๋ฉิงรับสังหารผู้คนให้กับคนอื่น
            จอมยุทธ์อู๋ฉิง คือมือสังหาร
            คุณสมบัติพื้นฐานของมือสังหารคือ ไร้น้ำใจ ดังนั้นจอมกระบี่อู๋ฉิงจึงเป็นมือสังหารที่ได้มาตรฐานอย่างยิ่ง ผู้คนเป็นจำนวนมากยินดีขอให้เขาไปสังหารผู้คน
            เขาเองก็ยินดีไปสังหารคนแทนผู้อื่น

            เขาเพิ่งตกลงงานค้าขายเรื่องหนึ่ง ทั้งยังเป็นงานค้าขายที่ใหญ่มากด้วย
            ผู้จ้างพูดว่า คนผู้นั้นได้สังหารหลิ่วหย่วนฟาง (หอมขจรไกลแซ่หลิ่ว) แห่งหย่วนฟางหยวนอุทยานหอมขจรไกล ที่เจียงหนาน ใครๆ ต่างก็รู้ว่า หลิ่วหย่วนฟางคือจอมยุทธ์ใหญ่ที่มีชื่อเสียงเลื่องลือในยุทธจักร ความตายของหลิ่วหย่วนฟางเป็นปริศนาในยุทธจักรมาโดยตลอด บัดนี้ความจริงได้เปิดเผยออกมาในที่สุด
            ผู้ที่สังหารทำร้ายหลิ่วหย่วนฟาง ย่อมเป็นคนเลวอันไม่ควรให้อภัย
            ผู้ที่สังหารทำร้ายหลิ่วหย่วนฟาง ย่อมมีวิทยายุทธ์สูงล้ำ
            ผู้จ้างเชื่อว่ามีเพียงจอมกระบี่อู๋ฉิงเท่านั้นที่สามารถฆ่าเขาได้

          เขา คือ เถียนหนาน 'ดาบเมฆเหิน' เถียนหนาน
            บ้านของเถียนหนานหาพบได้ยากยิ่ง ผู้จ้างวานได้ทุ่มเทเลือดเนื้อและจิตใจเป็นอันมากจึงหาได้พบ
            จอมกระบี่อู๋ฉิงหาเถียนหนานพบแล้ว
            ตอนที่จอมกระบี่อู๋ฉิงหาเถียนหนานพบนั้น เถียนหนานกำลังฟาดฟ่อนข้าว
            ฟ่อนข้าวเพิ่งเก็บเกี่ยว ส่งกลิ่นหอมของดินกำจาย ท่าทางการฟาดฟ่อนข้าวของเถียนหนานเหมือนว่าหลงใหลในงานอย่างยิ่ง กระทั่งเหมือนจะเต็มไปด้วยความรู้สึกเทิดทูน และศรัทธาเปี่ยมอารมณ์
            มือของเถียนหนานหยาบกร้านอย่างยิ่ง เป็นมือคู่หนึ่งของชาวนาอย่างแท้จริง
            มือของเถียนหนานหยาบกร้านอย่างยิ่ง ไม่เหมือนกับมือคู่ที่จะกุมกระชับดาบเลยแม้แต่น้อย
            "ท่านก็คือเถียนหนาน?" จอมกระบี่อู๋ฉิงถาม
            "ข้าคือเถียนหนาน"
มือของเถียนหนานยังคงทำงานอยู่ไม่หยุด เสียงของเขาก็มิได้สั่นสะท้อนเลยแม้แต่น้อย สีหน้าของเขายังคงดื่มด่ำกับงานดังเดิม
            "ท่านต้องรู้แม่ว่าข้ามาเพื่อทำสิ่งใด?" จอมกระบี่อู๋ฉิงพูดน้ำเสียงเฉยชา
            "ช่างเป็นฟ่อนข้าวที่ดีอะไรเช่นนี้!"
เถียนหนานยืนขึ้น ไม่ได้สนใจคำพูดของจอมกระบี่อู๋ฉิง เขาพูดด้วยอารมณ์ลึกเต็มอกอีกครั้งว่า
"ช่างเป็นฟ่อนข้าวที่ดีอะไรเช่นนี้!"

            เถียนหนานหันศีรษะกลับมา พูดกับจอมกระบี่อู๋ฉิงว่า
"พวกเราเดินไปไกลสักหน่อยเถิด อย่าให้เลือดกระเซ็นไปบนข้าว"
 น้ำเสียงของเขาราวว่ากำลังขอร้อง
            จอมดาบอู๋ฉิงพยักหน้า จากนั้นเถียนหนานเดินนำทางอยู่ที่ข้างหน้า วกอ้อมผ่านภูเขาเล็กๆ ลูกหนึ่งแล้วเถียนหนานหยุดยืนนิ่งอยู่
            "ชักดาบของท่านออกมา?" จอมดาบอู๋ฉิงพูด
            "ดาบ?" เถียนหนานมองดูมือทั้งคู่ของตน "ข้าไม่ได้กุมดาบมา 30 ปีแล้ว"
            "อะไร?" จอมดาบอู๋ฉิงตกตะลึง
            "ตั้งแต่...ตั้งแต่..." เถียนหนานทอดถอนใจคำหนึ่งพูดว่า
"ตั้งแต่...จอมยุทธ์หลิ่วตาย ข้าก็ไม่ได้จับดาบอีกเลย"
            "ท่านเกิดสำนึกบาปขึ้นมา?" จอมกระบี่อู๋ฉิงพูดเย้ย
            "มิได้ เป็นความรู้สึกเสียดาย"
นัยน์ตาของเถียนหนานปรากฏประกายวาววูบหนึ่ง แล้วหายไปอย่างรวดเร็ว เขาถอนใจยาวครั้งหนึ่ง
"ท่านลงมือได้แล้ว"

            จอมกระบี่อู๋ฉิงชักกระบี่ของเขาออกมาช้าๆ เขาไม่คิดสิ้นเปลืองเวลาอีกแล้ว กระบี่ไร้น้ำใจวาดวงเส้นงดงามสายหนึ่งไปทางคอหอยของเถียนหนาน...
            "หยุดไว้!"
ได้ยินเพียงเสียงแหลมเศร้าเสียงหนึ่งดังมา แต่ว่าได้สายไปเสียแล้ว คอหอยของเถียนหนานมีประกายโลหิตฉีดพ่นมาตามกระบี่ ใบหน้าของเขาสอบ ดวงตาของเรายังคงจ้องมองฝ่ามือของตน จากนั้นค่อยๆ ล้มลงบนพื้น
            สตรีร่างเล็กผอมซูบคนหนึ่งโผไปที่ร่างของเขา ร่ำไห้ออกมาสุดเสียง
"ท่านพี่หนาน ท่านพี่หนาน ทำไมท่านไม่พูดออกมา? ทำไมท่านจึงไม่พูดออกมา?"
            จอมกระบี่อู๋ฉิงมองดูกระบี่ของตนด้วยความหวั่นหวาด รู้สึกราวว่าผิดหวังในใจ รู้สึกเหมือนจะมีเรื่องไม่ถูกต้องอะไรบางอย่างเกิดขึ้น ทำไมท่านจึงไม่พูด? ทำไมท่านจึงรู้สึกเสียดาย?
            สตรีนางนั้นหันกลับมา พูดด้วยความเดือดดาลว่า
"ท่านทำผิดแล้ว! ท่านทำผิดแล้ว!"
            "ข้าทำผิด?" จอมกระบี่อู๋ฉิงพูดพึมพำ

            สตรีนางนั้นหลั่งน้ำตานองหน้า
"สิบสามปีก่อน ท่านพี่หนานและข้าเดินทางผ่านมาทางเจียงหนาน เนื่องจากพวกเราเลื่อมใสในชื่อเสียงของจอมยุทธหลิ่วมาเนิ่นนาน จึงได้ไปเยี่ยมคารวะ คาดไม่ถึงว่าจอมยุทธ์หลิ่วถูกวางยาพิษ ยาพิษชนิดนี้ไม่ถึงกับทำให้ตาย เพียงแต่ทำให้สูญเสียการควบคุมจิตใจไป ทำให้ต้องตกอยู่ในการบังคับของคนวางยา วิทยายุทธ์ของจอมยุทธ์หลิ่วอยู่ในระดับที่ 1 แห่งแผ่นดิน ถ้าหากถูกเขาบังคับใช้ประโยชน์ ผลลัพธ์เกินจะหยั่งคาด
จอมยุทธ์หลิ่วรู้ถึงอันตรายจุดนี้อย่างลึกซึ้ง พอพบพวกเรา ก็ขอให้ท่านพี่หนานสังหารตัวเขาเสีย เพื่อไม่ให้เขากระทำเรื่องอันเป็นเพทภัยต่อยุทธจักรเมื่อสูญเสียการควบคุมตนเอง ท่านพี่หนานได้แต่สังหารเขาเสียทั้งน้ำตา จอมยุทธ์หลิ่วช่างกล้าหาญเปี่ยมคุณธรรม มากความเมตตา ไม่ยอมให้ท่านพี่หนานแก้แค้นแทนเขา ท่านพี่หนานกับข้าเก็บตัวใช้ชีวิตอยู่ในป่าเขา ยังคงถูกคนชั่วเช่นเจ้าหาตัวจนพบ..."
            จอมกระบี่อู๋ฉิงโง่งมไปแล้ว
            "นอกจากนี้" สตรีนางนั้นพูดเสียงเย็นชา
"ท่านมิได้เป็นคู่มือของท่านพี่หนานแต่ประการใดเลย ท่านลองคลำดูที่ศีรษะของท่านดูสิ"

            จอมกระบี่อู๋ฉิงรีบยื่นมือออกไปคลำที่บนศีรษะ อดหนาวเยือกในใจวูบหนึ่งไม่ได้... มวยผมบนศีรษะของเขาถูกตัดไปครึ่งหนึ่ง
            สตรีนางนั้นพูดว่า
"เพลงดาบเทพยดาไร้เงาของท่านพี่หนาน บรรลุสุดยอดตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อนแล้ว เพียงแต่เพราะเขาถือว่าตนเองเป็นผู้สังหารจอมยุทธหลิ่ว ไม่อาจละความคิดนั้นจากจิตใจได้เลย.."

เรืองรอง รุ่งรัศมี 
แปล


พิมพ์รวมเล่มครั้งแรกในหนังสือ มือสังหาร สำนักพิมพ์ openbooks ตุลาคม 2551

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น