ค้นหาบทความ

วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

นักเพลงพเนจร

จบเพลง เด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้าไปเปลี่ยนสายกีตาร์สายที่ขาดออก เขายืนอยู่ตรงไหนตอนนักเพลงทั้งสองร้องเพลงอยู่ไม่ทันมีใครสังเกต เขาเปลี่ยนสายกีตาร์อย่างตั้งอกตั้งใจ ไม่ทำตัวโดดเด่น ก้มหน้าก้มตาปรับเสียงกีตาร์ให้เข้าที่
ซำเหมา เอาสนุก เดินเข้าไปนั่งยองข้างนักเพลงแขนขวาขาด กล่าวชื่นชม และชวนสนทนาระหว่างรอความพร้อมของกีตาร์
เล่นดนตรีตรงนี้ประจำไหม?” ซำเหมา เอาสนุกถาม
ช่วงนี้เล่นตรงนี้ เวลานี้ถ้าผ่านมา เราอยู่ตรงนี้ทุกวันนักกีตาร์แขนขวาขาดตอบ
พวกคุณอยู่ที่นี่รึเปล่า?” ซำเหมา เอาสนุกซักต่อ
เราเป็นคนพเนจร...

ซำเหมา เอาสนุกนิ่งอึ้ง เป็นคำตอบที่คาดไม่ถึงว่าคนแปลกหน้าที่พบในอุโมงค์ข้ามถนนจะพูดคุยด้วยบทสนทนาเช่นนี้
คุณ 2 คน...ซำเหมา เอาสนุก พยักหน้าไปทางคนที่นั่งรถเข็น
3 คน... นักเพลงแขนขวาขาดมองไปทางคนหนุ่มที่กำลังตั้งสายกีตาร์อยู่ข้างๆ “...เขาเป็นญาติห่างๆ คอยช่วยเหลือเรา 2 คน...
ร้องเพลงด้วยกันนานรึยัง?” ซำเหมา เอาสนุกเต็มไปด้วยความทึ่งและความสนใจใคร่รู้
4 ปีแล้ว เราพเนจรไปทั่ว...
ร้องเพลงข้ามถนนอย่างนี้ มีปัญหากับทางบ้านเมืองไหม?”
มีมากบ้าง น้อยบ้าง ร้องเพลงข้างถนนยังไงก็มีปัญหาอยู่แล้วล่ะ
ยังไง
กีดขวางการจราจร รบกวนความสงบของชาวบ้านเมือง
แล้วทำไง?”
พยายามอย่าให้โดนจับ ย้ายที่ไปเรื่อยๆ
             “เพลงที่ร้องเมื่อกี้แต่งเองหรือ?”
ไม่ใช่ แต่งเองยังไม่ดีพอ
แสดงว่ามีเพลงที่แต่งเองไว้อยู่
มี แต่ยังไม่ดีพอ
ร้องให้ฟังได้ไหม?”
อย่าเลย ยังไม่ดีพอ
แล้วเพลงเมื่อครู่นี้ชื่อเพลงอะไร ใครร้อง จะได้ไปหามาฟัง
เพลง ดอกไม้หญิงสาวเหมย เย่น ฟาง เป็นคนร้องนักเพลงแขนขาดเปิดสมุดของเขา ชี้ไปที่ชื่อเพลง “...เดี๋ยวจะร้องให้คุณฟังเพลงหนึ่งเป็นพิเศษ...

กีตาร์มาอยู่ในมือของนักเพลงแขนขวาขาดเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เขากระชับมันมั่นเหมาะ ลองกรีดสายเบาๆ ลองเสียงสายแต่ละเส้น ซำเหมา เอาสนุก ขยับออกห่างมา ผู้คนยังล้อมเป็นวงอยู่จำนวนหนึ่ง ระหว่างสนทนาอยู่นั้น พวกเขายืนล้อมฟังบทสนทนาอยู่ด้วยความสนใจด้วยเช่นกัน
เสียงกีตาร์ชัดเจน เสียงร้องทรงพลัง หนักแน่นและเต็มเสียง เต็มอารมณ์ ท่วงทำนองคึกคัก และคุ้นหู
คนฟังที่ยืนอยู่ต่างนิ่งเงียบ

เลียบไปตามเส้นทางคดโค้งอ่อนโยนของแม่น้ำและขุนเขา
ควบม้าไปในทุ่งราบภาคกลางที่แสนรัก
แม่น้ำทางใต้และเหนือที่ข้ารัก
ประจันหน้ากับดาบคมกระบี่อันวาววับ
อุปสรรคช่างรักที่จะมาอยู่เคียง
ข้าถนอมรักเดือนปีสีทองที่สวรรค์มอบให้ข้า
เป็นคนต้องกล้าหาญ สัตย์ซื่อ
เป็นคนเกรงกลัวไปไยกับความยากลำบากและอันตราย
อารมณ์ฮึกห้าวไม่เปลี่ยนแปร ปีแล้วปีเล่า
ชีวิตมีขมมีหวาน
ดีชั่วแบ่งแยกจากกัน
ล้วนแต่ก็เพื่อวันพรุ่งแห่งความฝัน
มองดูกีบเท้าเหล็กดังก้องสะท้าน
ย่ำไปทั่วดินแดน
ข้ายืนอยู่ท่ามกลางดินแดนและยอดคลื่น
กุมการหมุนเปลี่ยนของวันเวลามั่นในมือ
ปรารถนาให้โลกอันวุ่นวายทุกข์เข็ญ
ได้สุขสงบ งดงาม
ข้าอยากจะยืมวันเวลาจากฟ้าอีก 500 ปี

เสียงเพลงก้องดังไปทั่วอุโมงค์ข้ามถนนนั้น ผู้คนนิ่งฟังและตบมือเสียงดังเมื่อจบเพลง บางคนเดินเข้าไปหย่อนเงินลงในกล่องกีตาร์

 เรืองรอง  รุ่งรัศมี
4/2005


พิมพ์ครั้งแรกในคอลัมน์ สายลมในกิ่งหลิว เนชั่นสุดสัปดาห์ ปีที่ 13 ฉบับที่ 674 วันที่ 2– 8 พฤษภาคม 2548

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น