อายุน้อยๆ ข้าพเจ้าเคยคิดว่าคนอายุเกิน 40 นั้นเป็นผู้ใหญ่ แล้วพออายุเข้า 50 ก็แก่ แล้วคนแก่นั้นก็ต้องใช้ชีวิตไปตามประสาแก่
ไม่เคยคิดเลยว่า
ประเดี๋ยวเดียวข้าพเจ้าก็อายุ 50
ยังไม่ทันรู้สึกว่าตนเองเป็นผู้ใหญ่พอ ยิ่งไม่ยอมรับว่าอารมณ์ความรู้สึกของตนจะ
"แก่"
ก็ข้าพเจ้ายังเป็นผู้ชายที่ชอบใส่กำไลเงินที่ข้อมือ
และออกจะสนับสนุนให้เด็กหนุ่มไว้ผมยาว เด็กสาวซอยผมสั้น หากว่าเขาและเธอรู้สึกว่าการทำเช่นนั้นทำให้ดูดี
และเป็นความสุขเล็กๆ น้อยๆ ของชีวิต
ข้าพเจ้ารู้สึกว่านั่นก็ไม่ต่างกับการที่เด็กเล็กชอบไอศครีม
ผู้ใหญ่ชอบดื่มเหล้า เบียร์ บางคนชอบนั่งสมาธิ บางคนชอบเข้าวัด
ทั้งหมดนั้นล้วนแต่คือความสุขเล็กๆ น้อยๆ ของชีวิตทั้งนั้น. หากไม่ยึดมั่นถือมั่นว่าตนเป็นผู้มีทัศนะที่ถูกต้องที่สุดในโลก
แต่โลกก็มักไม่ใช่โลกที่สมบูรณ์แบบเช่นนั้นเสมอ
ในวัยห้าสิบ
ข้าพเจ้าพูดคุยกับมิตรสหายบางคน
และพบว่าเราต่างยังมีอารมณ์ความรู้สึกของเด็กหนุ่มเด็กสาวอยู่ในตัว.
เรากลับมาค้นพบความจริงว่าคนในวัยอย่างเรา หรือคนในวัยที่แก่กว่าเรามากๆ ก็ยัง
"ตกหลุมรัก" คนได้
เวลาที่เห็นผู้ชายผู้หญิงอายุต่างกันมากๆ
อยู่ด้วยกัน ข้าพเจ้าไม่รีบคิดว่าเป็นเรื่องของ "โคแก่หญ้าอ่อน"
หรือ "ไก่แก่แม่ปลาช่อน" อีกต่อไป.
สารภาพด้วยความจริงใจว่าข้าพเจ้าออกจะคารวะหัวใจของพวกเขา
และรู้สึกขอบคุณโลกที่ได้นำชีวิตด้านที่อ่อนโยน
และเอื้ออาทรมาให้กับชีวิตของคนที่เดินทางระหกระเหิน ไม่ให้ต้องโดดเดี่ยว
และหนาวเย็นเกินไป
แต่โลกก็มิได้สมบูรณ์แบบ
ไม่ใช่คนทุกคนที่ยอมมองดูและค้นให้พบด้านที่อ่อนโยนงดงามของชีวิต
แม้กระทั่งผู้ชายและผู้หญิงที่อยู่ด้วยกัน ก็มิได้มีแต่ด้านดีงามทุกคู่
การเสแสร้งหลอกลวงนั้น
ก็เป็นความจริงของชีวิต
หรือแม้จะจริงใจกันก็เถิด
เมื่อถึงยามที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดต้องจากไป ทั้งจากเป็นหรือจากตาย
โลกภายหลังจากนั้นก็ไม่ใช่โลกอันสมบูรณ์แบบอยู่ดี
แต่จะทำอย่างไรได้อีกล่ะ
ชีวิตก็เป็นเช่นนี้เอง
เรืองรอง รุ่งรัศมี
พิมพ์ครั้งแรกในคอลัมน์
“สายลมในกิ่งหลิว” เนชั่นสุดสัปดาห์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น