ค้นหาบทความ

วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

กลางคืน


ค่ำคืนที่เดือดพล่าน
เอาผิวหนังที่ร้อนลวกที่สุดของเธอ
แนบที่ตรงแก้มของฉัน

ฉันปวดจนน้ำตาไหล ร้องว่า อย่า
ตรงนี้ไม่ใช่ตำแหน่งที่ฉันต้องการความอบอุ่นอย่างที่สุด
                  
จากบทกวี 'เยว่'
โดย : เฉิน เค่อ ฮว๋า
กวีร่วมสมัยไต้หวัน


            กลางคืนในโลกสมัยใหม่สว่างไสว แทบจะพูดได้ว่าสะดวกสบายเท่ากับยามกลางวัน ชีวิตดำเนินไปในยามกลางวัน และกลางคืนแทบจะไม่แตกต่างกัน
            ไฟฟ้า, โทรทัศน์, โทรศัพท์, การแบ่งเวลาทำงานและการผลิตออกเป็นกะ เป็นช่วงเวลา, อินเทอร์เน็ต ฯลฯ มีส่วนทำให้ชีวิตกลางวันและกลางคืนของคนผกผัน สับสน ต่อเนื่องจนทำให้เลอะเลือนแยกแยะไม่ได้
            ตื่นตัวอยู่ในยามค่ำคืนนานเข้า กลายเป็นการเคยชินที่จะใช้ชีวิตกลางคืน ครั้นนานวันเข้า โรคนอนไม่หลับก็เริ่มถามหา

            คนเป็นโรคนอนไม่หลับมักจะฟุ้งซ่านง่าย เป็นคนคิดมากขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว เป็นคนหวั่นไหว เคว้งคว้าง ได้ง่าย
            แม้ว่าโทรทัศน์ วิทยุ อินเทอร์เน็ต จะมีให้ใช้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่บ่อยครั้งที่สิ่งเหล่านี้ไม่อาจถมช่องว่างในจิตใจให้เต็มได้ คนเป็นจำนวนไม่น้อยเปิดวิทยุ โทรทัศน์ และคอมพิวเตอร์เอาไว้เป็นเพื่อน ให้เครื่องจักรเหล่านี้สร้างเสียง สร้างภาพ ให้จิตใจพอได้ไขว่คว้าพึ่งพิง

            ความเปลี่ยวเหงา ไม่ว่าในยุคใดๆ ก็ล้วนแต่คือความเปลี่ยวเหงา มันมีอานุภาพอันทรงพลังของมันคอยเคี่ยวกรำชีวิตผู้คน ในอดีตเนิ่นนาน มันเคี่ยวกรำกระทั่งทำให้หลี่ไป๋ รัตนกวีสมัยราชวงศ์ถาง ต้องลุกขึ้นมาชูจอกชวนจันทร์ มีเงาร่ายรำเป็นเพื่อน ทำให้คนอีกจำนวนหนึ่งต้องไปแขวนตัวเองไว้ตามโรงเตี๊ยมหรือโรงเหล้า ทำให้คนอีกจำนวนหนึ่งชอบอยู่ในที่ทำงานจนค่ำมืดดึกดื่น ทั้งๆ ที่งานก็ไม่มีอะไรจะต้องเร่งรีบทำขนาดนั้น เพราะเป็นทางหนึ่งที่เขาจะได้ไม่ต้องอยู่ในค่ำคืนคนเดียวในห้องของเขา
            อยู่ในค่ำคืนคนเดียวในเวลาที่ไม่อ้างว้างผู้คนจำนวนหนึ่ง ก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องหนักหนาสาหัสแล้ว อยู่ในค่ำคืนคนเดียวในยามโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงา รสชาติย่อมมิใช่ความหอมหวานแน่นอน หากเป็นช่วงระยะเวลาสั้นยังอาจปลอบใจตนว่าฝืนทนกล้ำกลืนไปแล้ว จะสามารถผ่านพ้นไปได้ในวันใดวันหนึ่ง แต่หากเป็นความโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงากับวันเวลาที่ไม่อาจรู้กำหนดได้นั้น ค่ำคืนแต่ละคืนเหมือนทอดยาวราวไม่รู้สิ้นสุด

            กลางคืน คือ ความเย็นและความร้อนรุ่ม เย็นและร้อมรุ่มทั้งอากาศและใจ เป็นความขุ่นมัว หรือว่าหม่นคว้าง ล้วนแต่เป็นค่ำคืนที่ไม่น่ารักสำหรับคนที่ถูกมันเคี่ยวกรำอยู่
            ค่ำคืนเสมือนเหวลึกสำหรับบางคน ในแต่ละค่ำคืนราวยืนหมิ่นเหม่อยู่ตรงปากเหว โชคดีก็ได้นอนหลับสักหลายชั่วโมง หากพลาดพลั้งร่วงดิ่งลงในเหวลึกนั้น ก็ราวกับจะกลายเป็นเจ้าของคอกแกะฝูงมหึมา เป็นชาวปศุสัตว์ที่น่าสงสาร นับแกะของเขาอยู่อย่างสับสน ตัวที่ 33, ตัวที่ 34 ... ตัวที่ 75 ... ตัวที่ 737 ... ตัวที่เท่าไรกันแน่ เขาเองก็เริ่มมึนงง ทว่าใจยังคงไม่หลับ...

            ค่ำคืนยื่นฝ่ามือร้อนผ่าวแตะเขาที่แก้ม ที่ขมับ และที่หน้าผาก ร้อนรุมขึ้นมาราวว่าอุณหภูมินี้เกิดจากตัวเขา ปรอทความรู้สึกบอกว่าชีวิตกำลังป่วยไข้
            ความร้อนรุมๆ ผ่าวๆ ที่ตรงแก้ม หน้าผาก และขมับทั้งสอง และอาการหนาวเย็นที่หัวใจนั้น คืออาการป่วยไข้กระมัง
            แกะตัวที่เท่าไรแล้วที่เขากำลังนับ เกิดอาการวูบผวาขึ้นมาอีกแล้ว เอามือกุมที่หน้าอก หลับตานับแกะตัวที่หนึ่งใหม่
            มีแกะตัวหนึ่งสะดุดรั้วล้มลง เขาจะเริ่มต้นนับใหม่หรือนับต่อเนื่องไปดี
            แกะตัวนั้นมุดไปในดงไม้นอกรั้วไปแล้ว สีขนของมันค่อยๆ มอลง
            แกะดำตัวหนึ่งนอนกระสับกระส่ายบนเตียง เสียงเครื่องปรับอากาศกำลังคราง เขาควรลุกขึ้นหรือยัง...
            ร้อนผ่าวที่หัว และที่เบ้าตา ทว่าหนาวเย็นอยู่ที่หัวใจ


เรืองรอง รุ่งรัศมี


พิมพ์ครั้งแรกในคอลัมน์ สายลมในกิ่งหลิว เนชั่นสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 616

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น