ค้นหาบทความ

วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ร่องรอยของความทุกข์ตรม



วันวัยนำพาชีวิตผ่านพบประสบการณ์ เรื่องราวบางอย่างคนเราต้องผ่านพ้นวันเวลามาพอจึงจะเข้าใจ ซิน ชี่ จี๋ กวีสมัยราชวงศ์ซ่ง (ค.ศ.960-ค.ศ.1276) เคยเขียนไว้ในบทกวี 'โฉ่ว หนู เอ๋อร์' ไว้ว่า

"วัยเยาว์ไม่รู้จักรสชาติของความทุกข์ตรม
รักแต่จะปีนไต่หอสูงยิ่งขึ้นอีก
รักแต่จะปีนไต่หอสูงยิ่งขึ้นอีก
เพื่อจะเขียนกวีบทใหม่ เค้นเอ่ยว่าทุกข์ตรม
บัดนี้ได้ลิ้มรสความทุกข์ตรมจนสิ้นแล้ว
คิดจะเอ่ยเอื้อนออกมาก็ยังหยุดชะงักไว้
คิดจะเอื้อนเอ่ยออกมาก็ยังหยุดชะงักไว้
แล้วกลับพูดว่า อากาศเย็นสบาย
ช่างเป็นฤดูใบไม้ร่วงที่งดงาม"

            ความเหงา ความเศร้า ความทุกข์ ความเปล่าเปลี่ยวเดียวดาย แม้ว่าจะเรียกขานด้วยคำเดียวกัน แต่รสชาตินั้นซับซ้อนแตกต่างกันไปตามวันเวลาของชีวิตแต่ละช่วงวัย
            วันเวลานำพาทั้งความเหนื่อยล้า และการเติบโตมาให้กับชีวิตในวัยเยาว์ที่ร่างกายยังดี จิตใจยังแกร่งนั้น ชีวิตมักขาดประสบการณ์ และความจัดเจน พบพานปัญหาอุปสรรค มักจะร่ำไห้เสียงดัง แต่ก็ด้วยวัยอันเยาว์นั้นเองที่ช่วยให้ฟื้นคืนสภาพได้เร็ว ผิดกับยามเมื่อชีวิตเดินทางมายาวนาน ผ่านพบประสบการณ์หลากหลายมาจนชุ่มโชก ยามพบกับทุกข์สุขใดๆ มักจะฟูมฟายน้อยกว่า
            ในความนิ่งเงียบเรียบเฉย มีริ้วรอยของวันเวลากระเพื่อมเป็นระลอกอยู่อย่างที่บางครั้งผู้อื่นก็มองไม่เห็น


เรืองรอง  รุ่งรัศมี


พิมพ์ครั้งแรกในคอลัมน์ สายลมในกิ่งหลิว เนชั่นสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 583

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น