ค้นหาบทความ

วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2556

ลม ฝน นกร้อง และเสียงเพลง

 มองฟ้า 2010, สีน้ำบนกระดาษ (29x40 ซม.)

ลม ฝน นกร้อง และเสียงเพลง

จำได้ไหมว่า ได้ฟังเสียงลม เสียงฝน และเสียงนกร้องในธรรมชาติจริงๆ ครั้งหลังสุดเมื่อนานเท่าไรแล้ว
ชีวิตสมัยใหม่นำพาผู้คนห่างไกลออกไปจากธรรมชาติโดยไม่รู้ตัว เราแสวงหาเสียงเพลงไพเราะ แสวงหาเครื่องเสียงดีๆ ที่ให้เสียงอย่างใกล้เคียงธรรมชาติที่สุด กระทั่งบางครั้งเราพากันลืมเลือนไปว่า เสียงที่ไพเราะและเป็นธรรมชาติที่สุดนั้นมีอยู่แล้วในธรรมชาติ โดยไม่ต้องใช้เครื่องเสียง ลำโพง หรือแผ่นที่อัดได้ยอดเยี่ยมเลย
จิตใจและความคิดของเราเกิดอะไรขึ้น

เราฟังเสียงลม เสียงฝน เสียงธรรมชาติ ผ่านเครื่องเสียงชั้นดี แต่เสียงเหล่านี้ก็นำพาเม็ดฝน หยาดน้ำค้าง สายลม และเสียงนกร้องมาในจินตนาการเพียงเท่านั้น
ลมเสียง ฝนเสียง นกเสียง ช่วยให้ดอกไม้ใบหญ้าแพร่พันธุ์งอกงามได้ไหม?
เราเย็นฉ่ำชื่นอยู่ในห้องฟังเพลงที่ปรับอากาศไว้อย่างสบาย ขณะที่โลกทั้งใบร้อนขึ้นทุกที
โลกร้อน เราดับความร้อนในอารมณ์ด้วยการฟังเพลง แล้วก็ลืมเลือนเสียสิ้นว่า เราเป็นผู้มีส่วนร่วมในการทำให้โลกร้อนหรือไม่?

ฟังเพลงเย็นๆ แล้วย้อนสำรวจตัวเองกันบ้างก็ดี ถึงวันนี้ คนดีที่รักเครื่องเสียง รักเสียงเพลง เกลียดการดูถูกเหยียดหยาม ต้องเปิดหัวใจให้กว้างขึ้น ให้สามารถรักโลกสีน้ำเงินใบที่เราอาศัยอยู่ด้วย เพราะว่าหากย่ำยีโลกใบนี้ต่อไป คงไม่นานหรอกที่โลกทั้งใบจะถึงกาลล่มสลาย
แสวงหาความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ และทางวัตถุแต่พอสมควรเถิด อย่าให้เลยถึงขั้นทำลายสังคม และทำลายโลกจนเกินจะเยียวยาแก้ไขเลย
สังคมไทยก้าวมาอยู่ตรงขอบเหวนั้นแล้ว เผลอไผลพลาดพลั้งอีกนิดเดียวก็จะร่วงหล่นลงสู่ก้นเหว
ชะลอฝีเท้า และความทะยานอยาก หันมาสู่โลกธรรมชาติสักนิด ไม่ได้สัมผัส ลม ฝน แมลง ดอกไม้ในธรรมชาติจริงๆ ลองมาสัมผัสเสียงของธรรมชาติผ่านแผ่นซีดีและเครื่องเสียงก็ยังดี
อย่างน้อย ให้ลมเสียง ฝนเสียง นกเสียง นำพาจิตวิญญาณกลับมาสู่วิถีที่ชีวิตควรจะเป็น





เรืองรอง  รุ่งรัศมี
1997

2 ความคิดเห็น: