ชา สีอะคริลิค บนแคนวาส 150x150 ซม. |
จากห้องหนังสือของคนโง่
๑
ข้าพเจ้าเป็นคนชอบอ่านหนังสือ
นอกจากชอบหนังสือแล้ว ยังชอบเพลงและชอบหนังอีกด้วย
เอ่อ... ข้าพเจ้าชอบเที่ยวไปในที่ต่างๆ
และชอบเสพสุขอีกด้วย
สารภาพว่าข้าพเจ้าไม่ใช่คนขยันอะไรนัก ดังนั้นจึงมิได้เป็นคนร่ำรวยเงินทอง
แต่การไม่ร่ำรวยไม่ได้หมายความว่าไม่ควรจะเสพสุข และไม่ควรจะมีรสนิยม
คนมีรายได้ต่ำ เสพสุขได้ และมีรสนิยมสูงได้
คนมีรายได้เจ็ดหมื่นแปดหมื่นล้าน เสพสุขไม่เป็น
และไม่มีรสนิยม ก็มีให้เห็น
เสพสุข – ไม่ได้เสพกันด้วยเงิน
สุนทรียรสต้องการพื้นที่ในใจและความว่างรอรับ
อ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง ดื่มชา
ล้วนแต่ต้องใช้ใจและอารมณ์ว่างๆ จึงจะรู้รส
อ่านหนังสือเป็น ดูหนังเป็น ฟังเพลงเป็น
ดื่มชาเป็น ขยับเข้าใกล้การใช้ชีวิตอย่างมีรสนิยมเข้าไปนิดหนึ่ง
ใช้ชีวิตอย่างมีรสนิยมน่าจะขยับเข้าใกล้การใช้ชีวิตเป็นเข้าไปอีกหน่อย
ใช้ชีวิตเป็นน่าจะไม่ใช่การใช้ชีวิตเป็นเครื่องจักรทำเงินเพียงอย่างเดียว
ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องบ้างานนัก และยิ่งไม่ต้องบ้าเงิน บ้าอำนาจอะไรเลย
๒
ใครๆ ก็อ่านหนังสือได้
ใครๆ ก็ฟังเพลงได้
ใครๆ ก็ดูหนังได้
ใครๆ ก็ดื่มชาได้
และใครๆ ก็มีรสนิยมที่ดีได้
อ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง ดื่มชา
ในแต่ละเดือนใช้เงิน ๖๐๐ – ๗๐๐ บาทก็ได้แล้ว
จะใช้เงินเป็นพัน เป็นหมื่น หรือเป็นแสน
เพื่ออวดความร่ำรวยหรือเพื่อข่มให้คนอื่นเขากลัว ก็แล้วแต่ทัศนะ
แต่นั่นอาจจะไม่ใช่การใช้เงินเป็น
ไม่ใช่การมีรสนิยม และยิ่งไม่ใช่การใช้ชีวิตเป็น
คนมีรสนิยม คนใช้ชีวิตเป็น
คงไม่ใช่คนอวดร่ำอวดรวย และคนข่มผู้อื่นด้วยเงินกระมัง
เมษายน ๒๕๔๙
ห้องหนังสือของคนโง่
คัดลอกบางส่วนจาก เสมือนคำนำผู้เขียน รวยรินกลิ่นชา ฉบับพิมพ์ครั้งที่
๔ (ฉบับปรับปรุงใหม่) แพรวสำนักพิมพ์ พ.ศ.๒๕๔๙
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น