วันคืนล่วงไป
วันคืนล่วงไปไม่หยุด เราต่างก้าวเดินสู่ดินแดนใด
ก้าวผ่านขวากหนาม และดงดอกไม้
ก้าวไปทั้งโดยรู้ตัวและไม่รู้ตัว
วงล้อของวันเวลาเคลื่อนมาตรงเส้นรอยต่อสมมุติ
เตือนสติให้รู้ความหมายว่า ก้าวเท้าใหม่กำลังยก ย่าง ก้าวที่แล้วมา
ร่องรอยฝีเท้าที่ทิ้งไว้ข้างหลัง เราอาจรู้ตัว และไม่รู้สึกตัว
ตรงเส้นรอยต่อสมมุติเป็นเพียงเสียงนาฬิกาปลุกไร้เสียงสู่จิต
ตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ด้วยความตื่นอยู่
หรือว่าตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่โดยไม่ได้ตื่น
ดงดอกไม้หอมกรุ่นรอคอยอยู่ตรงเบื้องหน้า วงล้อของวันเวลาเคลื่อนไปไม่หยุด
ยามเมื่อเคลื่อนตัวผ่านดงดอกไม้
ตัวของเราเองรู้จักสูดดมกลิ่นแห่งดอกไม้อันหอมละมุนอยู่ตรงเบื้องหน้าหรือยัง
วันคืนเคลื่อนไปไม่หยุด มีดงดอกไม้ไม่ไกลจากเรา
ตื่นขึ้นมาดอมดมความหอมแห่งมวลดอกไม้ และให้ดวงจิตโบยบินสู่ระดับสูง
ตรงเส้นรอยต่อสมมุติของกาลเวลา เสียงนาฬิกาปลุกไร้รูปปลุกเราให้รู้สึกตัว
พูดคุย ถาม ตอบตนเอง
รู้หรือไม่รู้ ถึงความมีอยู่ของดงดอกไม้
ตรงรอยต่อสมมุติของกาลเวลา มองดู พิจารณา
ไตร่ตรอง และยิ้มให้กับชีวิต มีใจเอ็นดูต่อสรรพสิ่ง
มีจิตรับรู้ถึงความหอมของมวลดอกไม้
เรืองรอง รุ่งรัศมี
1/1/20055
คัดลอกบางส่วนที่ตีพิมพ์ลงในคอลัมน์ กิ่งไผ่และดวงโคม
หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ฉบับวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 31 ธันวาคม 2537-1 มกราคม 2538
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น