ค้นหาบทความ

วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ต้นหญ้า

สีน้ำ บนกระดาษ



ไม้ใหญ่นั้นมองดูเด่น เห็นชัดถนัดตา ใครๆ ก็มักให้ความสำคัญ คนก็เช่นกัน
คนโดยทั่วไปให้ความสำคัญกับคนสำคัญ คนที่โดดเด่น คนที่เป็น “ใครบางคน” มากกว่าที่จะมองดูที่ผู้คนเล็กๆ อันเป็นประชาชนสามัญธรรมดาทั่วไปซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่
ประวัติศาสตร์บันทึกเรื่องราวของคนที่เป็นกษัตริย์ คนที่เป็นแม่ทัพ คนที่เป็นผู้นำ มากกว่าที่จะมองเห็นเหล่า "ไพร่พล" ซึ่งเป็นผู้ขับเคลื่อนประวัติศาสตร์และเรื่องราวต่างๆ ให้เคลื่อนไปอย่างแท้จริง

เรามักลืมไปว่า การดำเนินไปอย่างปกติของชีวิตทั่วไปเป็นเรื่องจริงและเรื่อง “ปกติ”.
ขณะที่เหตุการณ์ต่างๆที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์เป็นเรื่อง “ไม่ปกติ” ที่เกิดขึ้น
เหตุการณ์ทั้งหลายในประวัติศาสตร์แท้จริงแล้ว คือ “ภาวะอปกติ” หรือ “ภาวะไม่ปกติ” ที่เกิดขึ้นนั่นเอง
ภายใต้ชื่อเสียงเลื่องลือของแม่ทัพใหญ่ มีกองกระดูกขาวโพลน ซากศพ บาดแผล และเลือดเนื้อ ชีวิตมากมายของเหล่าไพร่พล
ภายใต้ศึกสงครามอันสะท้านฟ้า สะเทือนดิน สังเวยด้วยชีวิตผู้คนสามัญธรรมดามากมายเพียงใด
แต่แล้วเมื่อสงครามผ่านพ้นไป ผู้คนเล็กๆ ธรรมดาก็ถูกละเลย ลืมเลือน

คนธรรมดาสามัญ คนที่เป็นเพียงเบี้ยล่าง เป็นไพร่พล มีทางเลือกน้อยเสมอในทุกยุคสมัย
ผู้เสพเสวยผลประโยชน์ พากันตักตวง กอบโกย ย่ำยี และกดขี่ จากนั้นบันทึกสร้างความสำคัญให้กับการกระทำของตน

คนเล็กๆ ผู้เป็นคนสามัญธรรมดา จึงจำเป็นต้องเรียนรู้การรักษาชีวิตให้รอดเหมือนดับต้นหญ้า
ยามลมพัดแรง ยามฝนกระหน่ำ ต้นหญ้าได้แต่ลู่ไหวไปตามแรงลม แรงฝน. ครั้นเมื่อลมฝนผ่านไป กลับเหยียดกายตรงงอกงามต่อไป
เพียงแค่การมีชีวิตผ่านพ้นลมฝน และสามารถเติบใหญ่ต่อไปได้ ก็เป็นเรื่องเหนื่อยยากพอสมควรแล้วสำหรับชีวิตเล็กๆ ที่มีโอกาสถูกย่ำยีเบียดเบียนได้ทุกเมื่อ

ผู้คนมักมองว่าการเป็น “ไม้ใหญ่” หรือ การเป็น “ผู้ยิ่งใหญ่” นั้น เป็นสิ่งยาก แต่จะมีสักกี่คนที่ตระหนักว่าการเป็นคนเล็กๆ ธรรมดาสามัญเหมือนดั่งต้นหญ้าหรือฝุ่นผงนั้นยากยิ่งเหมือนกัน
การเป็นคนเล็กๆ ธรรมดาสามัญ ไม่ใช่เรื่องง่ายดายหรอก. ยิ่งการเรียนรู้ที่จะ ละ ลด อัตตาอันพองใหญ่ ให้เล็กลงเท่าปกตินั้น ยิ่งไม่ง่ายดาย
นี่ยังห่างไกลกับ “อนัตตา” อีกหลายก้าวเดิน


เรืองรอง รุ่งรัศมี


พิมพ์ครั้งแรกในคอลัมน์ “สายลมในกิ่งหลิว” เนชั่นสุดสัปดาห์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น